หลังจากที่ได้แยกทางเดินกับ สโมสรพนักงานยาสูบ ในไทยพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2553 กว่า 3 ปีเต็มที่ “สำเภาผยอง” หรือฉายาใหม่ “สำเภามหาชัย” สมุทรสาคร เอฟซี ได้โลดแล่นอยู่ในฟุตบอล เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ด้วยผลงานที่ดีขึ้นตามลำดับ จากอันดับที่ 5 ในฤดูกาลแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2010 จนฤดูกาล 2011 ที่ผ่านมา สามารถคว้าอันดับที่ 3 ด้วยผลงานที่เป็นลำดับที่ 3 จากทุกโซน ซึ่งเกือบที่จะเข้าไปเล่นรอบ แชมเปี้ยนลีก* ได้ ถ้าไม่แพ้ประตูได้เสียต่อ “สวาทแคท” นครราชสีมา เอฟซี ไปเสียก่อน

สาครออนไลน์ สัปดาห์วิจารณ์ ขอเรียบเรียงถึงเรื่องราวในทีมฟุตบอล สมุทรสาคร เอฟซี กับฤดูกาลใหม่ 2012 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในปีนี้ ทั้งตำแหน่งประธานสโมสร การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น และการย้ายโซนแข่งขันมาเป็นกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้

• ผู้บริหารและสปอนเซอร์ของทีม

จากเหตุการณ์ที่ “นายกฯ ตุ่น-อุดร ไกรวัตนุสสรณ์” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และประธานสโมสรฟุตบอล สมุทรสาคร เอฟซี ได้ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ทำให้ตำแหน่งประธานสโมสรว่างลง เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวว่า “ปลัดแต-อุดม ไกรวัตนุสสรณ์” น้องชายนายกฯ ตุ่น จะเข้ามารับตำแหน่งตรงนี้แทน ซึ่งเมื่อเดือนปลายเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา ปลัดแต ก็ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับนายกฯ ตุ่น ที่ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตไป แต่ในเรื่องของประธานสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ทางปลัดแตก็ยังปฏิเสธที่จะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่ค่อยถนัดในกีฬาด้านนี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าต้องรอดูคำตอบจากนักธุรกิจผู้หนึ่ง ที่ทางสโมสรกำลังทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งหากนักธุรกิจผู้นั้นไม่สะดวก ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แทนพี่ชาย

โดยในปัจจุบัน “เฮียอุ่ย-กมล ไกรวัตนุสสรณ์” ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสร และเป็นอาของนายกฯ ตุ่น ได้ทำหน้าที่ดูแลสโมสรฟุตบอลอยู่ในตอนนี้ ในขณะที่เก้าอี้ประธานสโมสรฟุตบอล สมุทรสาคร เอฟซี ยังคงรอผู้ที่จะมาสืบทอดในตำแหน่งนี้ต่อไป

ในเรื่องของผู้สนับสนุนการแข่งขัน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 2 ร.พ.เอกชัย ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวสโมสร สมุทรสาคร เอฟซี โดยมีผู้ว่าฯ จุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธาน และ “เฮียอุ่ย-กมล ไกรวัตนุสสรณ์” รองประธานสโมสรฯ และตัวแทนผู้สนับสนุนหลักอย่าง สหพล พลปฐพี ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ชลวิทย์ สุขอุดม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ยศรินทร์ ตลับนาค ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ KELA ศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล อุปนายกสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร พินิตย์ พิภพโชติพัฒน์ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัทไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ สมิทธิ์ วัฒนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สุรีย์อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด และ นพ.อำพล เอื้ออารีมิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเอกชัย ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมมอบเงินสนับสนุนทีม และอื่นๆ โดยในเบื้องต้นสมุทรสาครเอฟซี มีงบประมาณในการทำทีมฤดูกาลนี้ประมาณ 12 ล้านบาท

• ขุนพลสำเภามหาชัย

ฤดูกาลที่แล้วนับได้ว่ามีนักเตะดังๆ เข้ามาร่วมสร้างสีสันให้กับทีมมากมาย มีทั้ง แก้ว ซกง่อน ศูนย์หน้าทีมชาติกัมพูชา, จูเลียส โออิโบห์ ศูนย์หน้าไนจีเรีย จาก ซี-ลีก ลีกสูงสุดของกัมพูชา (2010) จรูญศักดิ์ สมกอง กองหลังกัปตันทีมของสมุทรสาคร เอฟซี ในปีแรก จาก ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร เอฟซี (2009) ธนกร กระสินธ์ อดีตนักเตะเชียงราย ยูไนเต็ด ในดิวิชั่น 1 ชุดได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีก (2010) และจียัมฟี่ เอดู ศูนย์หน้าระดับไทยพรีเมียร์ลีก จากราชนาวีสโมสร (2011) ที่เข้ามาช่วยทีมในช่วงปลายเลคที่สอง

ในฤดูกาล 2012 ที่จะมาถึงนี้ มีเพียงนักเตะ 6 ราย จากทีมในฤดูกาล 2011 เท่านั้นที่ยังเซ็นสัญญาอยู่กับสโมสรต่อ คือ “เก้-ซิเก้ โมเสษ” กองหลังชาวแคเมอรูน กับ “หรั่ง-ธงชัย โพธิ์นาง” แบ๊คซ้ายจอมบุก ซึ่งทั้งสองได้รับใช้ทีมสมุทรสาคร เอฟซี มาตั้งแต่ปีแรก (2010) “เสือ-อานนท์ วงศ์จันทะ” กองหลังกัปตันทีม “ยามิน-เยมี่ โจเซฟ โอเยโวเล่” กองกลางชาวไนจีเรีย อดีตนักเตะจากลีกกัมพูชา “ยุ้ย-ครรชิตพล อัครยงพันธ์” กองหน้าตัวเก่งของทีม และ “เนม-ภีรภัทร ภิญโญภาวสุทธิ” ผู้รักษาประตูหน้าใหม่ของทีมเมื่อฤดูกาลก่อน

สำหรับนักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามาเสริมทัพ มีที่น่าจับตามองอย่าง “นนท์-อานนท์ บุษผา” กองหน้าดาวรุ่งวัย 23 ปี จาก ชลบุรี เอฟซี ทีมยักษ์ใหญ่ในไทยพรีเมียร์ลีก “ดล-กิตติศักดิ์ แท่นทอง” กองกลางดาวรุ่งวัย 20 ปีจากราชนาวีสโมสร “ฝุ่น-ธราวุธ บุญช่วยเหลือ” กองกลางตัวรับวัย 28 ปี อดีตกัปตันทีมบางกอก เอฟซี

“รุ่ง-จักรินทร์ บุญมี” ผู้รักษาประตูวัย 31 ปี และ “แงบ-ศิโรดม สิงห์ทิพย์พันธุ์” กองกลางร่างเล็กวัย 29 ปี จาก กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี “ยุนซู-ฮัน ยุนซู” กองกลางวัย 24 ปี ชาวเกาหลีใต้จาก สมุทรปราการ เอฟซี และล่าสุด คว้าตัว “โคซ่า-ทอมัส โคซ่า” กองหน้าร่างโย่งชาวสโลวาเกีย วัย 33 ปี จากแบ๊งค็อก ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 1 มาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งนักเตะเหล่านี้น่าจะเป็นกำลังหลักสำคัญที่จะช่วยเสริมทีมให้แข็งแกร่งขึ้น

ในส่วนของผู้ฝึกสอนของทีม “โค้ชเกลี้ยง-นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง” อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทยในยุคทศวรรษ 1980 ยังคงรับหน้าที่กุนซือใหญ่ หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลก่อน ด้วยการคว้าอันดับ 3 ในลีกได้สำเร็จ ซึ่งทางโค้ชเกลี้ยงประกาศว่า เป้าหมายในฤดูกาลนี้คือการคว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนลีก เพื่อลุ้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ให้ได้ ซึ่งถ้าหากทำผลงานไม่สำเร็จ ก็พร้อมที่จะพิจารณาตัวเอง เปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาดูแลทีมแทน

• รู้จัก “โซนกรุงเทพและปริมณฑล” สมรภูมิใหม่

2 ฤดูกาลแรกที่ สมุทรสาคร เอฟซี เข้าร่วมแข่งขันใน “เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2” ได้ประจำอยู่ในโซนภาคกลางและตะวันออก ร่วมกับทีมในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในเขตภาคกลางและตะวันออกของไทย มีทีมชั้นนำอย่าง “ม้าลำพอง” ระยอง เอฟซี “ป้อมปราการ” สมุทรปราการ เอฟซี “นักรบรวงทอง” อ่างทอง เอฟซี “วานรเพลิง” ลพบุรี เอฟซี “นักรบกรุงศรี” อยุธยา เอฟซี ฯลฯ ซึ่งเป็นทีมจังหวัด ส่วนใหญ่มีผู้บริหารเป็นนักการเมืองในท้องถิ่นนั้นๆ

ในฤดูกาล 2012 ที่กำลังจะมาถึง “สำเภามหาชัย” สมุทรสาคร เอฟซี จำต้องย้ายมาเล่นในโซนกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งโดยมากจะเป็นทีมองค์กร ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน สมาคมกีฬา หรือบริษัทเอกชน ขอยกตัวอย่างทีมที่น่าจับตามอง จากทั้งหมด 18 ทีมในลีกภูมิภาค ขึ้นมาให้ได้ทราบกัน

“ลูกพระเกี้ยว” จามจุรี ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิมคือ สโมสรฟุตบอลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งชนะเลิศในรอบเพลย์ออฟ (อันดับ 3) ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ถ้วย ข ประจำปี 2553 และเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เมื่อฤดูกาล 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งทำผลงานโดยได้อันดับที่ 7 มี “โค้ชอู๊ด-อ.สัจจา ศิริเขตต์” เป็นกุนซือของทีม นักเตะส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเล่นให้กับทางมหาวิทยาลัยในฟุตบอลรายการต่างๆ มีนักเตะดาวรุ่งอย่าง ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยชุด U-19 อรรถพล กันหนู กองหน้า และนักเตะดาวรุ่งที่ได้ก้าวขึ้นไปเล่นทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่าง “หนุ่ย-ศราวุฒิ มาสุข” เป็นที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ยังมี จีรวัฒน์ ทองลือ และ “ป๋าเทพ-สุเทพ หนักแน่น” อดีตแข้งสำเภาผยอง เมื่อฤดูกาล 2010 อยู่ร่วมทีมอีกด้วย

“อาชาผยอง” นอร์ทกรุงเทพ เอฟซี ทีมอันดับ 2 ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโป้ง-กฤษณ์ สิงห์ปรีชา” โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้วมีนักเตะทีมชาติไทยรุ่นดอะอย่าง โกวิทย์ ฝอยทอง เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ วิรัช วังจันทร์ สร้างสีสันให้กับทีม และมีนักเตะอย่าง สราวุธ คำบัว ผู้รักษาประตูเจ้าของสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีกเมื่อฤดูกาลก่อน คือ 19 ประตู บวร ตาปลา กองกลาง และ อภิวัฒน์ เพ็งประโคน ศูนย์หน้าของทีม ช่วยกันพาทีมผ่านเข้าไปในรอบแชมเปี้ยนลีก แต่พวกเขากลับไปไม่ถึงดวงดาว โดยคว้าชนะได้เพียงแค่นัดเดียวในรอบนี้ ซึ่งในลีกภุมิภาคฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง โค้ชโป้งยังคงใช้นักเตะชุดเดิม เสริมความแข็งแกร่งกับนักเตะใหม่อย่าง ประสพ เกิดศร และ กรวุฒิ แสงโพธิ์ สองผู้เล่นตัวรุกจาก นนทบุรี เอฟซี สำรวม ด่านตระเวณ แบ๊คซ้ายจากสุพรรณบุรี เอฟซี ฮอสเซียน นีสซิม กองกลางตัวรุกจากเอฟซี ภูเก็ต วัชรพงษ์ สมานทอง กองกลางจากศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี

“นาคามรกต” ม.เกษตรศาสตร์ คว้าแชมป์โซนกรุงเทพและปริมณฑลเมื่อฤดูกาลก่อน ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ “โค้ชตู่-พนิพล เกิดแย้ม” ผู้ฝึกสอนของทีม และนักเตะกำลังหลักคือ กองหน้าทั้ง ฟาบริซิโอ ดีมัวร์ ชาวบราซิล สิทธิพงศ์ กัลปพฤกษ์ และ ณัฐภัทร สมศรี อดีตศูนย์หน้าดาวซัลโวลีกภูมิภาคของเลย ซิตี้ ฤดูกาล 2010 สมชาย หันเอียง เพลย์เมคเกอร์กัปตันทีม อเนชา มาสมัคร แบ๊คซ้าย ซึ่งในฤดูกาลนี้ทั้งหมดได้โบกมือลาไปจากถิ่นเกษตรศาสตร์แล้ว กลายเป็นหน้าที่ของ “โค้ชจุ่น-จตุพร ประมลบาล” อดีตกุนซือทีมพัทยา ยูไนเต็ด ที่จะต้องรับช่วงคุมทีมต่อไป ด้วยนักเตะชุดฤดูกาลก่อนที่ยังคงอยู่กับสโมสรอย่าง ปรัชญา สิทธิ กองกลาง พร้อมด้วย จักรพงศ์ จี๊ดชู กองหน้าของทีม ผสมกับนักเตะสำรองและนักเตะหน้าใหม่ อย่าง นิยม คำชมภู ศูนย์หน้าหมายเลข 9 จากนครพนม เอฟซี ปิยะชาติ พรหมจักร มิดฟิลด์จากยโสธร ยูไนเต็ด อดีตนักเตะเยาวชนทีมชาติไทย และผู้รักษาประตู ณรงค์เดช ไทยทวี จากแบ๊งค็อก ยูไนเต็ด

“สิงโตลาดพร้าว” อาร์แบค บีอีซี เทโรศาสน ทีมฟุตบอลจากรั้ว ม.รัตนบัณฑิต ฤดูกาลที่แล้วในศึกดิวิชั่น 1 อาร์แบค เอฟซี ได้รองบ๊วยอันดับที่ 17 ยิงได้น้อยที่สุดในลีกเพียงแค่ 25 ประตู ตกชั้นลงมาเล่นในลีกภูมิภาค พร้อมกับ ไทยฮอนด้า สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด และเชียงใหม่ เอฟซี หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยตัวผู้เล่นในทีมออกไปมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวลดน้อยลงไปแต่อย่างใด พันธมิตรลูกหนังจากไทยพรีเมียร์ลีกอย่าง “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือในเรื่องบุคลากรและนักเตะบางส่วนในทีม โดยหวังจะให้ทีมนี้เป็นพื้นที่สำหรับนักเตะ “ยังบลัด” ของทีมมังกรไฟโดยเฉพาะ มี แอนดรูว์ ออร์ด โค้ชชาวอังกฤษ เข้ามาคุมทัพ ซึ่งได้เคยนำทีมเยาวชน บีอีซี เทโรศาสน คว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 และยังมี “โค้ชจิ-สมเด็จ หิตเทศ” อดีตผู้ฝึกสอนเดิม รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยอีกด้วย โดยโครงสร้างของทีมจะมีนักเตะมาจากทีมชุดเดิม 5-6 คน เช่น มะอูเซ็ง สาและ กับ วศิน ทองสง ที่เหลือก็จะเป็นนักเตะชุดเยาวชนของ บีอีซี เทโรศาสน ที่คว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพเมื่อปีกลายอย่าง วรวุฒิ แก้วผูก เป็นผู้รักษาประตู ภรัณยู อุปละ เล่นอยู่ในแดนหลัง และบรรดากองกลางอย่าง ณัฐพงศ์ ป้องกัน ศนุกานต์ ถิ่นจอม ซามูเอล ดั๊กบาร่า ขวัญทนง พันธ์ยก คอยทำเกมให้กับทีม

“ปีศาจปู” สมุทรปราการ ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิมคือ ไทยซัมมิต สมุทรปราการ เมื่อฤดูกาล 2009-2010 นับได้ว่าเจ้าบุญทุ่มทีมหนึ่งในโซนกรุงเทพฯ หลังจากฤดูกาลที่แล้วคว้าอันดับที่ 3 ด้วยผลงานที่เป็นลำดับที่ 4 จากทุกโซน ทำให้ชวดสิทธิ์ในการเล่นรอบแชมเปี้ยนลีก “โค้ชแหยม-วันชัย แหยมสลำ” โค้ชแห่งเมืองปากน้ำ ยังคงรับหน้าที่กุนซือใหญ่ของทีม ที่คราวนี้เสริมทัพเป็นจำนวนมาก มีที่น่าสนใจเช่น สมชาย หันเอียง กองกลางผู้มากประสบการณ์จากทีมแชมป์เก่า ม.เกษตรศาสตร์ อองรี บิทก้า กองกลางตัวตัดเกมชาวแคเมอรูน จากอยุธยา เอฟซี สุทิน อนุกูล กองหน้าจากไทยฮอนด้า อานนท์ พระสงฆ์ อดีตนักเตะสมุทรสาคร เอฟซี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ล่าสุดคว้านักเตะญี่ปุ่น อากิระ ฮิกาชิยาม่า วิงแบ๊คสารพัดประโยชน์ เสริมความน่ากลัวให้กับทีมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนักเตะชุดเดิมอย่าง ชัยรัช ศรีสุขพร้อม กองหลังกัปตันทีม และพรปรีชา จารุนัย หรือ “เมสซี่ปากน้ำ” ขวัญใจของแฟนบอลปีศาจปูอีกด้วย

นอกจาก 5 ทีมที่กล่าวข้างต้น ยังมีอีก 12 ทีม ที่นับได้ว่าแข็งแกร่งพอๆ กัน ยกตัวอย่างบางทีมที่มีการจับมือเป็นพันธมิตรลูกหนัง กับทีมชั้นนำในไทยพรีเมียร์ลีก อย่าง “พญานาคิน” ลูกอีสาน-การบินไทย กับ อินทรี-เพื่อนตำรวจ ”ชงโคสีม่วง” กรุงเทพคริสเตียน กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด และ “เสือหนุ่มรังสิต” รังสิต เอฟซี (ชื่อเดิมคือ สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส) ที่ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ถ้วย ข. ปีล่าสุด มีบางกอกกล๊าส เอฟซี ให้การสนับสนุน

และยังมีทีมอื่นๆ ที่นับได้ว่า ประมาทไม่ได้อย่างยิ่ง เช่น “เจ้าสัวน้อย” อัสสัมชัญธนบุรี ที่ฤดูกาลนี้ได้เปลี่ยนสนามเหย้าจาก สนามหญ้าเทียม เดอะแพค พระราม 2 มาเป็นสนาม ร.ร. อัสสัมชัญธนบุรี “นกเงือกพิฆาต” ปราจีนบุรี เอฟซี ที่ฤดูกาลก่อนคว้าอันดับที่ 6 ไปครองได้ “เด็กร่มเกล้า” ม.เกษมบัณฑิต “เจ้าพ่อตลาดหุ้น” โกลเบล็ก เอฟซี “อีกานนท์” นนทบุรี เอฟซี “กรุงธนบุรี เอฟซี (ชื่อเดิมคือ คริสเตียนไทย) รองแชมป์ถ้วย ข. “ราชสีห์ที่ราบสูง” เซ็นทรัลราชสีห์ เอฟซี (หรือชื่อเดิมคือ นอร์ทเซ็นทรัล เอฟซี) ที่ถูกพักทีมไปเมื่อฤดูกาลก่อน ได้สิทธิ์กลับมาแข่งขันใหม่ในปีนี้

พร้อมกับอีกสองทีมที่ตกชั้นจาก ดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง “พญาอินทรี” ไทยฮอนด้า และ ”ฟอร์ซ่า” ศุลกากร ยูไนเต็ด ที่ยังหวังจะกลับขึ้นไปเล่นยัง ดิวิชั่น 1 อีกครั้ง

และนี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ของ “สำเภามหาชัย” สมุทรสาครเอฟซี ที่ฤดูกาลใหม่จะต้องพบกับความท้าทายหลายๆ อย่าง ทั้งการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ประธานสโมสร นักเตะในทีม และการย้ายโซนพบกับทีมใหม่ๆ ดังสัจธรรมที่ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

• กิตติกร นาคทอง •

(* รอบแชมเปี้ยนลีก คือรอบ 12 ทีมสุดท้ายของลีกภูมิภาค ที่นำแชมป์และรองแชมป์ของ 5 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและตะวันออก ภาคใต้ กรุงเทพและปริมณฑลฯ รวม 10 ทีม และอันดับ 3 ที่มีผลงานดีที่สุดของแต่ละภูมิภาคอีก 2 ทีม มาแข่งในรอบสุดท้าย ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งขันกันในระบบลีกแบบเหย้า-เยือน ซึ่งแชมป์และรองแชมป์ของรอบนี้ จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในระดับ ดิวิชั่น 1 ต่อไป)

รายชื่อผู้เล่น สมุทรสาคร เอฟซี ฤดูกาล 2012

DF ศราวุธ อักษรทอง (4)
DF ครรชิต ชลรัตน์อมฤต (5)
DF เรืองยศ เดชะเทศ (6)
FW Thomas Kozar (7)
MF Han Youn-Soo (8)
FW อานนท์ บุษผา (9)
MF Yemi Joseph Oyewole (10)
MF พลากร อ่อนธรรม (11)
DF Zike Moise (15)
DF อานนท์ วงศ์จันทะ (16)
DF ธงชัย โพธิ์นาง (17)
GK จักรินทร์ บุญมี (18)
MF หฤษฎี ไพรฑูรย์ (19)
DF Nwambelen Paul (20)
MF วีรศักดิ์ เกียรติสูงเนิน (21)
FW ครรชิตพล อัครยงพันธ์ (22)
GK จิระศักดิ์ ทองสัมฤทธิ์ (24)
MF Gimba Ali (25)
MF ธราวุฒิ บุญช่วยเหลือ (26)
MF โชติชนิต ชินสี (27)
GK ภีรภัทร ภิญโญภาวศุทธิ (30)
FW ศิโรดม สิงห์ทิพพ์พันท์ (32)
MF กิตติศักดิ์ แท่นทอง (35)