‘เฮียเส่ย’ กลัวแพ้-‘กุลวัชร’ไม่จัดเต็ม

ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาคร ปรากฏว่านายสุภาพ แซ่เฮ้ง จากทีมฅนรักถิ่น เอาชนะนายกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีสมัยที่แล้ว ด้วยคะแนน 13,545 ต่อ 9,616 คะแนน อาจเรียกได้ว่าเป็นการพลิกอำนาจในเทศบาลนครสมุทรสาคร กลับมาสู่ยุคของทีมฅนรักถิ่นอีกครั้งหนึ่ง

สาครออนไลน์พูดคุยกับ สุรพล ระวิวงษ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ จังหวัดสมุทรสาคร และนักจัดรายการวิทยุ วิเคราะห์ให้เราฟังว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ สาเหตุประการแรกคือ ความแปรปรวนในการบริหารจัดการมวลชนของกลุ่มพัฒนานคร ทั้งเรื่องของพระเดชและพระคุณ การกระจายความเชื่อมั่น การจัดการน้ำเลี้ยง-กระสุน รวมไปจนถึงเรื่องของความพึงพอใจ

สุรพลกล่าว งานนี้คงต้องบอกว่า “กุลวัชรเอาไม่อยู่”

ขณะเดียวกัน การบริหารจัดการภายในกลุ่มของนายกุลวัชร อาจจะขาดความสมดุล ดูอาการจากการแต่งตั้งรองนายกเทศมนตรีได้เพียง 2 คน คือ นายทองแทน เลิศลัทธภรณ์ และนายชวพล วัฒนพรมงคล ขณะที่ฝ่ายนายสุภาพได้วางรองนายกเทศมนตรีได้ 4 คนมาตั้งแต่ไก่โห่ ได้แก่ นายชุมพล จันทร์จรัสพัฒนา หรือเฮียตู่, นายชวลิต ลิ้มธนสาร หรือเฮียซุง, นายศักดิ์ชัย นิมิตรปัญญา หรือเฮียโหงว และนายสาคร อิ่มพรรณไชย หรือเฮียต้อ

นายสุรพลตั้งข้อสงสัยไม่ต่างไปจากเซียนการเมืองท้องถิ่น ที่มองว่าคงจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่ กับเสาค้ำฐานเสียงหลักๆ ของนายกุลวัชร อันได้แก่ กลุ่มทุนท้องถิ่นจากหลายตระกูลและหลายกลุ่มธุรกิจ, กลุ่มฐานเสียงสนับสนุนจากครอบครัวไกรวัตนุสสรณ์ ที่ประสานงานผ่านสายตระกูลวัฒนพรมงคล และนายทองแทน

รวมทั้ง กลุ่มฐานเสียงสนับสนุนจากมวลชนที่เป็นเครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประสานงานผ่านบุคลากรหลักในสายตระกูลหงษ์คู และมวลชนจากชุมชนต่างๆ ภายใต้การดูแลของผู้นำชุมชน ผู้นำเครือข่าย รวมไปถึงกลุ่มพลังสตรีท่าฉลอม และมวลชนที่เป็นฐานเสียงส่วนตัวของนายกุลวัชรเอง

ประการต่อมา นายสุรพลมองถึงการจัด “งานวันท้องถิ่นไทย” ซึ่งเชื่อว่าอาจกลายเป็นการทำลายคะแนนนิยมของนายกลุวัชรที่ฝั่งท่าฉลอม เพราะการจัดงานมีงบประมาณไม่กี่ล้านบาท แต่จัดงานแยกเป็น 2 โซน คือที่วัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม กับที่วัดแหลมสุวรรณาราม ทำให้พื้นที่จัดงานที่วัดช่องลมดูกร่อยไปถนัดตา ก่อให้เกิดการคัดค้านต่อต้านจากศูนย์อิทธิพลหลักในตำบล

มีคหบดีหลายคนทนไม่ไหว ต้องยอมควักกระเป๋าจ้างมหรสพมาแสดงที่วัดช่องลมเองชนิดไม่แยแสต่อกันอีกต่อไป ซ้ำร้ายคนท่าฉลอมยังมองว่า การจัดงานวันท้องถิ่นไทยที่ผ่านมา ไม่มองถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีของคนท่าฉลอม ก่อให้เกิดการไม่ยอมรับวันท้องถิ่นไทยขึ้น กระทั่งมีคำขวัญประจำงานติดป้ายไปทั่วตำบลว่า “เอาวันท้องถิ่นไทยคืนไป เอาวันสุขาภิบาลท่าฉลอมคืนมา”

สุรพลกล่าวว่า ผู้ใกล้ชิดวงในที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน ถึงกับต้องปลงอนิจจัง มองว่างานวันท้องถิ่นไทยครั้งนี้ จัดขึ้นมาเพื่อทำลายคะแนนนิยมของนายกุลวัชรโดยแท้

อีกประการหนึ่งที่สำคัญ กรณีที่มีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาครฉบับหนึ่ง ลงข่าวในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2555 โจมตีนายกุลวัชรกรณีให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ของเทศบาลนครสมุทรสาคร ที่ ต.ชัยมงคล อ.เมืองฯ เพื่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ และเข้ามารับจ้างกำจัดขยะให้ แม้ประเด็นยังมีความไม่เข้าใจและมีความผิดพลาด แต่ก็สร้างความปั่นป่วนและสั่นคลอนคะแนนนิยมของนายกุลวัชรอยู่ไม่น้อย

เพราะมีผู้นำข่าวชิ้นดังกล่าวไป “ถ่ายสำเนาแจก” ทั่วตลาดมหาชัย

นายสุรพลมองในฐานะสื่อมวลชนอาชีพ ว่า การเสนอข่าวคาบลูกคาบดอกแบบนี้ มีความสุ่มเสี่ยงค่อนข้างมาก ถ้ามีการชี้แจงหรือพิสูจน์ได้ว่าเนื้อหาที่นำเสนอดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ตัวบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อาจจะถูกเทศบาลนครสมุทรสาครฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท นอกจากนี้ อาจถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินคดี ฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 57 ข้อ 5 ที่ระบุถึงการใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด

“ถ้าหากมีการเชื่อมโยงไปถึงความเกี่ยวข้องกับผู้สมัครทีมนั้นได้ อาจเป็นชนวนไปสู่การแจกใบเหลือง หรือถึงขั้นใบแดงเลยทีเดียว ข้อมูลข่าวแบบนี้ถ้าไม่ชัวร์ หากนำเสนอนอกเทศกาลเลือกตั้งก็อาจมีความผิดหนึ่งเด้ง แต่ถ้ามานำเสนอในช่วงเทศการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็มีสิทธิ์โดนข้อหา 2 เด้ง แถมยังจะพาให้ผู้ชนะการเลือกตั้งแบบนอนมา ต้องพลอยซวยติดร่างแหโดนสอยร่วงตามไปด้วย” นายสุรพลกล่าว

เมื่อกล่าวถึงความประมาทของกลุ่มพัฒนานคร ก็มีผลต่อการแพ้ชนะครั้งนี้เช่นกัน นายสุรพลได้มองกันตั้งแต่ การขาดความสามารถในการแก้เกมสงครามข่าวที่ตนถูกโจมตี การจัดงานวันท้องถิ่นไทยโดยไม่เข้าใจจิตวิญญาณของชุมชนในช่วงใกล้ฤดูหาเสียง ส่วนการประกาศชื่อรองนายกเทศมนตรีเพียง 2 คน เหมือนทำให้รู้สึกว่า กับประชาชนเราจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องผิดถนัด เพราะกับประชาชนต้องของจริงและต้องจัดเต็มทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกตีความว่า ดูหมิ่นเหยียดหยามและไม่เคารพประชาชน

“งานนี้กลุ่มพัฒนานครไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแพ้ จึงไม่จัดเต็ม ขณะที่ทีมคนรักถิ่นกลัวแพ้ เลยจัดซะเกิน” สุรพลกล่าว

อีกด้านหนึ่ง ทีมงานของนายกุลวัชรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีพฤติกรรมถือตัว โดยเฉพะบรรดาหน้าห้อง หรือเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานหาเสียง ที่ทำให้ผู้เข้าไปติดต่องานเกิดความเอือมระอา และกลายเป็นช่องว่างแห่งความห่างเหินกับประชาชนที่เกิดขึ้นโดยนายกุลวัชรไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ สุรพลเล่าว่า ข่าวซุบซิบวงในถึงคดีความเก่าของทีมผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งรายหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องโคมลอยก็ถือว่าก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงและเคลียร์ไม่จบ ก็อาจส่งผลสะเทือนต่อการเข้ามาบริหารเทศบาลนครสมุทรสาครครั้งนี้แน่นอน •

•••

สถิติการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาคร

หมายเลข 1 นายสุภาพ แซ่เฮ้ง 13545 คะแนน
หมายเลข 2 นายกุลวัชร หงษ์คู 9616 คะแนน
หมายเลข 3 นายทวีศักดิ์ สุจินดามณีชัย 123 คะแนน

บัตรดี 23,284 ใบ (94.878%)
บัตรเสีย 651 ใบ (2.653%)
ไม่ประสงค์ลงคะแนน 606 ใบ (2.269%)
จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 37661 คน

จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 24541 คน (65.163%)



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง