ปิดตำนานสงกรานต์ “พุทธมณฑล สาย 4”

467

เทศกาลสงกรานต์ปี 2556 ที่ผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ แม้การเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวจังหวัดสมุทรสาครจะเป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่อีกด้านหนึ่งบรรยากาศบนถนนพุทธมณฑล สาย 4 กลับพบว่าถนนโล่ง ไม่มีการเล่นน้ำสงกรานต์โดยรถกระบะอย่างคึกคักให้เห็น

เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ชาวบ้านบนถนนพุทธมณฑล สาย 4 กลุ่มหนึ่งออกมาชุมนุมบริเวณแยกสาครเกษม เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ได้ตั้งด่านห้ามรถกระบะที่บรรทุกถังน้ำและบรรทุกคนเข้าไปในถนนอย่างเข้มงวด

ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวให้เหตุผลว่า การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้ามไม่ให้รถกระบะเข้าไปในถนนพุทธมณฑล สาย 4 ก็เท่ากับห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ไปโดยปริยาย แม้จะอ้างว่าไม่ได้ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ แต่เมื่อไม่มีรถกระบะเข้าไปในถนน ชาวบ้านในย่านนี้ก็ไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์กับใคร

หลังจากการประท้วงผ่านไปสักระยะ ตำรวจจึงบอกกับชาวบ้านว่า จะปล่อยให้รถกระบะผ่านเข้าไปเล่นน้ำบนถนนพุทธมณฑล สาย 4 ได้ แต่หากเกิดการจราจรติดขัดจะตั้งด่านห้ามรถกระบะเข้าไปทันที ชาวบ้านจึงพากันแยกย้ายสลายตัวในที่สุด

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยภาพรวมของถนนพุทธมณฑล สาย 4 ในปีนี้พบว่าเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการตั้งด่านอย่างเข้มงวด โดยถนนเส้นดังกล่าว อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบรอยต่อระหว่าง 2 จังหวัด ได้แก่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, สภ.โพธิ์แก้ว และ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

467-5

ตำรวจนครปฐมประสานกำลัง สภ.โพธิ์แก้ว และ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมเข้มการเล่นน้ำบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 และสาย 5 เกิดผลกลุ่มรถกระบะขนคนเข้าพื้นที่น้อยลง (ภาพจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์)

ส่วนรถกระบะเมื่อตำรวจตั้งด่านห้ามเข้าไปด้านใน จึงหันไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนอุทยาน และถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร แต่ผลจากมาตรการจัดระเบียบห้ามเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนพุทธมณฑล สาย 4 ทำให้บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์บางตาลง

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกระเบียบ “ข้อห้ามการเล่นสงกรานต์ปี 2556” รวม 11 ข้อ ได้แก่ 1.ห้ามซื้อ และขายสินค้าบนไหล่ทาง 2.ห้ามเปิดเครื่องเสียง 3.ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน 4.ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์

5.ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง 6.ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน 7.ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว 8.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และผู้ที่เมาอยู่แล้ว 9.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ 10.ห้ามเล่นแป้ง และ 11.ห้ามเมาแล้วขับรถ

แม้ข้อห้ามหลายข้อจะถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ข้อห้ามประเภท ห้ามซื้อ และขายสินค้าบนไหล่ทาง ,ห้ามเปิดเครื่องเสียง ,ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ ,ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ,ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน และห้ามเล่นแป้ง ถูกตั้งคำถามว่าเป็นข้อห้ามแบบ “เลยเถิด” หรือไม่

กระทั่ง พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธว่าไม่ได้ออกข้อห้ามในการเล่นสงกรานต์ ประชาชนยังสามารถเล่นน้ำ นั่งหลังรถกระบะ ขายแป้ง และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่กรณีที่มีการเล่นน้ำจนเกินเลยหรือกระทำการที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ถึงกระนั้น การที่ตำรวจตั้งด่านห้ามไม่ให้รถกระบะเข้าไปในถนนพุทธมณฑล สาย 4 ก็ยิ่งเป็นการสวนทางกับสิ่งที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาพูด ตามมาด้วยคำถามที่ว่า ตำรวจจะใช้ข้อหาใดจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืน และการจับปรับผู้ฝ่าฝืนด้วยข้อหาที่ใครๆ ก็ทำกันเป็นสิ่งที่เกินกว่าเหตุหรือไม่?

467-2

สภ.พุทธมณฑล ปล่อยแถวประชาสัมพันธ์ การห้ามขายของริมทาง และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนถนนพุทธมณฑล สาย 4 (ภาพจาก ตำรวจภูธรภาค 7)

กระแสข่าวการจัดระเบียบการเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนพุทธมณฑล สาย 4 ต้นคิดมาจากเฟซบุ๊ก “อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม” ซึ่งนายอำเภอสามพรานคนปัจจุบันคือ นายนนู สร้อยพลอย โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวโพสต์ข้อความระบุว่า

“ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 ห้ามมิให้มีการตั้งเต็นท์ วางของ จำหน่ายสิ่งของ สุรา รวมถึงห้ามรถที่มีการบรรทุกคน ถังน้ำเข้าในบริเวณถนนพุทธมณฑล สาย 4 เพื่อให้การเล่นสงกรานต์ปีนี้เป็นไปตามประเพณีอันดีงาม โดยเน้นสงเสริมให้มีการเล่นในวัดที่จัดให้มีการเล่น เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุทางหนึ่งด้วย”

เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ระบุเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวขอความร่วมมือตลอดสาย โดยเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยทางถนนของจังหวัดนครปฐม แล้วเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว โดยให้ไปกำหนดเขตเล่นน้ำสงกรานต์ที่เหมาะสม ซึ่งอ้างว่าชาวบ้านกระทุ่มล้มเดือดร้อน มีการทะเลาะวิวาทกันมาก

“ถนนทางเท้า มีไว้สัญจร ต้องดูถึงความปลอดภัยเป็นหลักความสงบเรียบร้อยของประชาชนโดยส่วนรวมเป็นหลัก ปีนี้มหาดไทย ให้จัดเขตการเล่นสงกรานต์ ประกอบกับ เมื่อก่อนก็เล่นกันบนถนนอุทยานแล้ว กทม.ห้ามเล่น เลยมีการเล่นใหม่บนถนนพุทธมณฑล สาย 4 ซึ่งปีที่แล้วมีการยิงกัน ดิฟท์รถบนถนน มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ท่านหวังดีก็เข้าใจแต่ในทางกับกันราชการต้องป้องกันและแก้ไขปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะลามแล้วสายเกิดแก้ หรือมีคนเสียชีวิตเกิดขึ้น” แอดมินเฟซบุ๊ก ระบุ

ต่อมา สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้ขึ้นป้ายไวนีลบนสะพานลอยตลอดถนนพุทธมณฑล สาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ระบุว่า “สงกรานต์ปีนี้ 13-15 เมษายน 2556 ห้ามซื้อขายสินค้าบนถนน และห้ามเปิดเครื่องเสียง ฝ่าฝืนมีความผิด… มีโทษทั้งจำและปรับ”

ขณะเดียวกัน อำเภอสามพราน ยังได้ร่วมกับเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม และ สภ.โพธิ์แก้ว ได้แจกใบปลิวระบุว่า “แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน เทศกาลสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2556 บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 ห้ามจำหน่ายสุรา อาหาร สิ่งของ ตั้งเวทีกีดขวางทางเท้าหรือผิวจราจร

ห้ามผู้ขับขี่/ผู้โดยสารรถ ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามบรรทุกคนเล่นน้ำนั่งท้ายรถกระบะ โดยไม่มีสิ่งป้องกัน ห้ามสาดน้ำบนรถกระบะ ลุกขึ้นมายืนเต้น หรือขับขี่รถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัย ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และรักษาประเพณีการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ดีงาม”

467-3

ใบปลิวที่อำเภอสามพราน เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม และ สภ.โพธิ์แก้ว นำไปแจกจ่าย

ผลจากการออกประกาศดังกล่าว รวมทั้งการตั้งด่านห้ามไม่ให้รถกระบะเข้าไปในถนนพุทธมณฑล สาย 4 ถือว่าได้ผล เพราะตลอด 2 วันที่ผ่านมา คือ 13-14 เมษายน ถนนพุทธมณฑล สาย 4 เงียบเหงาที่สุดในรอบ 10 ปี มีเพียงชาวบ้านตั้งจุดเล่นน้ำสงกรานต์ข้างทางเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น

ขณะที่ พ.ต.ท.อำนาจ โฉมฉาย รองผกก.ป. สภ.โพธิ์แก้ว ออกมาให้ข่าวอย่างหน้าชื่นตาบานว่า มาตรการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ตลอดทั้งวันมีการเล่นน้ำสงกรานต์น้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสุภาพ เรียบร้อย ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดเกิดขึ้น

แต่ถึงกระนั้น มาตรการที่ออกมาทั้งจากนายอำเภอสามพราน และตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ขาดตกบกพร่องอย่างใหญ่หลวง คือ การจัดโซนนิ่งการเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะเมื่อมีมาตรการเช่นนี้แม้จะอ้างว่าอยากให้ชาวบ้านเล่นสงกรานต์ด้วยความสุภาพเรียบร้อย แต่ชาวบ้านที่อยากเล่นก็ไม่มีที่ไป

นอกจากนี้ มาตรการที่เข้มงวดยังสร้างความเดือดร้อนไปถึงจุดเล่นสงกรานต์ข้างเคียงอย่างถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เนื่องจากเมื่อได้ข่าวว่าถนนพุทธมณฑล สาย 4 มีการห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ ก็ทำให้รถกระบะจากต่างถิ่นรู้สึกว่าเมื่อเจอภาพเช่นนี้ กลับไม่มีอะไรเลยเพราะมันเงียบ

หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 17 เม.ย. อ้างแหล่งข่าวจากพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศกร่อยกว่าทุกปี ในปีนี้มีผู้มาเล่นน้ำค่อนข้างน้อย หลายคนเกิดความไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำรถบรรทุกน้ำออกมาเล่นได้อย่างปีก่อนๆ ที่ผ่านมาได้หรือไม่

ชาวบ้านแถบนี้ยืนยันว่า ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ถูกใช้เป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์มานานแล้ว โดยประชาชนจะมาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมากทุกปี ที่ผ่านมาหากถนนพุทธมณฑลสาย 4 การจราจรติดขัดจนเข้าไปเล่นไม่ได้ ผู้คนก็มักจะเดินทางมาเล่นกันที่นี่แทนอยู่เสมอ

และเนื่องจากเป็นถนนติดคลอง สามารถหาน้ำมาเล่นกันได้สะดวก จึงอยากให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ประกาศให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำอย่างเป็นทางการ เพราะการควบคุมจะทำได้ง่ายกว่า ส่วนใครที่เล่นตามแนวถนนหลัก ถึงค่อยใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปควบคุมดูแลต่อไป

ด้านชาวบ้าน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ที่รู้สึกผูกพันกับบรรยากาศวันสงกรานต์ในพื้นที่ถนนพุทธมณฑล สาย 4 มองว่าทางตำรวจและฝ่ายปกครองทำเกินกว่าเหตุ และมองว่าหากจัดถนนพุทธมณฑล สาย 4 เป็นพื้นที่เล่นน้ำ น่าจะสามารถควบคุมได้ง่ายกว่าถนนข้าวสาร

เมื่อทางอำเภอสามพรานและตำรวจออกมาตรการถึงขนาดตั้งด่านห้ามรถกระบะ เสียงสะท้อนจากชาวบ้านออกเป็นสองเสียง ด้านหนึ่งแสดงความชื่นชม เพราะไม่มีการส่งเสียงดัง และการจราจรไม่ติดขัด ทั้งยังมองว่าคนที่เล่นสงกรานต์บนถนนพุทธมณฑล สาย 4 ไม่ค่อยเกรงใจคนอื่น

อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงสะท้อนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการสวนกระแสประเพณี พร้อมทั้งมองว่าเทศกาลสงกรานต์ปีละครั้ง มีแค่ 3 วัน ที่อื่นเล่นสงกรานต์ทั้งประเทศ แทนที่จะถ้าปรับแผนกันใหม่ ปล่อยให้เล่น แต่เน้นตรวจตรา ทำให้มีรายได้เข้าพื้นที่บ้าง จะให้ชาวบ้านสนุกตามประเพณีก็ไม่ได้

และเนื่องจากถนนพุทธมณฑล สาย 4 เป็นรอยต่อระหว่าง จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร แม้ทางอำเภอสามพรานจะอ้างว่าเทศบาลนครอ้อมน้อย และ สภ.กระทุ่มแบนจะให้ความร่วมมือ แต่ชาวบ้านย่านนั้นก็พลอยได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของจังหวัดใกล้เคียง

แน่นอนว่า “สมศักดิ์ ขวัญเมือง” นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย หรือ ส.ส.คนพื้นที่อย่าง “กำนันหลอ-บุญชู นิลถนอม” ก็คงไม่กล้าบอกกับชาวอ้อมน้อยว่า ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ห้ามเล่นสงกรานต์ เพราะมีผลต่อคะแนนนิยม ปล่อยให้ชาวบ้านย่านนั้นปฏิบัติตามแนวคิดของคนจังหวัดอื่นอย่างเงียบๆ

467-4

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

คนสมุทรสาครรายหนึ่งถึงกับตัดต่อภาพออกเป็นสองกรอบ กรอบแรกบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ในตลาดมหาชัย ระบุว่า “เล่นกันอย่างมีความสุข” ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นชาวบ้านทะเลาะกับตำรวจ ระบุว่า “ร้องขอความสุขแค่ 3 วัน” ระบุใต้ภาพว่า “สองรูปนี้ คือจังหวัดเดียวกัน”

เจ้าของภาพที่ตัดต่อระบุว่า “ถึงมันจะผ่านมาแล้ว ผมไม่อยากให้ภาพแบบนี้เกินขึ้นในปีหน้าอีก อยากให้รูปนี้ถึงตำรวจ ที่ออกกฎห้ามแบบไม่คิด” ทั้งยังพรรณาว่า นั่งดูรถที่ผ่านหน้าบ้านแค่ลุ้นว่าจะมีรถมาให้สาดน้ำสักคัน นั่งดูเหมือนหมารอเศษข้าวเลยทีเดียว

ปัญหาการเล่นน้ำสงกรานต์บนท้องถนน ยังคงเกิดขึ้นทุกปี พร้อมกับแนวคิดการจัดระเบียบการเล่นน้ำสงกรานต์ โดยใช้ความเข้มงวดแบบ “หักด้ามพร้าด้วยเข่า” สวนกระแสสังคม มองแต่ปัญหามากกว่าการเปิดโอกาสและเสรีภาพของประชาชนภายใต้กรอบของกฎหมาย

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายปกครองและตำรวจจะต้องคิดเองเออเอง โดยปิดกั้นวิถีชีวิตของชาวบ้านเพื่อเอาใจคนกลุ่มหนึ่ง แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเข้าใจถึงประเพณีสงกรานต์อย่างดีแล้ว กลับปิดกั้นโอกาสในการเล่นน้ำสงกรานต์ สะท้อนถึงความล้มเหลวอย่างหนึ่งที่อาจมองไม่เห็น

หนทางที่ดีที่สุดในการจัดระเบียบการเล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้วิสัยทัศน์ในห้องแอร์ ท่ามกลางเสียงผู้เห็นด้วยและคัดค้านโต้แย้งกันทุกปี แต่ควรใช้โอกาสนี้เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะเอกชน ผู้ประกอบการต่างๆ และประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึง

โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า สงกรานต์ถนนพุทธมณฑล สาย 4จะไปทางไหน จะจัดระเบียบอย่างไร จะกำหนดจุดไหนให้เล่น หรือจะจัดระเบียบการจราจรโดยสลับช่องทางเล่นน้ำ กับช่องทางสัญจร ทำอย่างไรให้ชาวบ้านตลอดเส้นทาง 10 กิโลเมตรพึงพอใจโดยทั่วกันทั้งสองฝ่าย

การเล่นน้ำสงกรานต์ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ที่กลายเป็นตำนานครั้งนี้ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลว ทั้งการปิดกั้นประเพณีที่เล่นกันอย่างยาวนาน และการสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวบ้านสองฝั่งถนน

ที่สุดแล้วมาตรการแบบยอมหักไม่ยอมงอครั้งนี้ ในปีหน้าจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่?



1 ความคิดเห็น เรื่อง “ปิดตำนานสงกรานต์ “พุทธมณฑล สาย 4””

  1. suphotsaengnin กล่าวว่า:

    เม.ย. 22, 13 at 11:54 am

    พุทธมณฆลสาย๔ขอเล่นนำ้สงกรานฅ์ปี๒๕๖๖ใด้


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง