ในช่วงนี้ตลอดสองข้างทางของถนนในจังหวัดสมุทรสาคร จะพบเห็นป้ายแนะนำตัวบุคคลทางการเมืองอยู่สองราย ได้แก่ “นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม ” กับ “นายสุนทร วัฒนาพร” ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าทั้งสองเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สมุทรสาคร หลัง ส.ว.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในวันที่ 2 มีนาคม 2557 และจัดการเลือกตั้งใหม่

“สาครออนไลน์” จึงขอทำหน้าที่เปิดเผยประวัติว่าที่ผู้สมัคร ส.ว. ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ “สภาสูง” ในการเลือกตั้ง ส.ว.เที่ยวนี้ ซึ่งเป็นการชิงกันระหว่างสองนักธุรกิจคนสำคัญในจังหวัดสมุทรสาคร

เริ่มจาก นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีวิคฟู้ด อินดัสตรี จำกัด เป็นบุตรชายคนโตของ นายฮะ และนางสุวรรณ แสงสุขเอี่ยม ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทชัยนาวี นักธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2494 ปัจจุบันอายุ 62 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

หลักสูตรพัฒนานักธุรกิจชั้นนำส่วนภูมิภาค NIDA-IMET รุ่นที่ 6 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับ มูลนิธิสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย และหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารระดับสูงตามแนวพระราชดำริ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คลังสมองวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเพื่อสังคม

ชีวิตครอบครัว สมรสกับนางอุไรลักษณ์ แสงสุขเอี่ยม อายุ 58 ปี รองประธานกรรมการบริษัท ซีวิคฟู้ด อินดัสตรี จำกัด มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ นางสาวสุรกาญจน์ แสงสุขเอี่ยม อายุ 33 ปี คณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย และนายศุภโชติ แสงสุขเอี่ยม อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นผู้บริหารบริษัท ซีวิคฟู้ด อินดัสตรี จำกัด

ส่วนพี่น้องร่วมบิดามารดามีด้วยกัน 4 คน ได้แก่ นายวิชัย แสงสุขเอี่ยม อายุ 60 ปี, นางพอนสี แต่ศิริ อายุ 57 ปี, นายสุวันชัย แสงสุขเอี่ยม อายุ 53 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยนาวีห้องเย็น จำกัด นายกสมาคมธุรกิจคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น และนายเธียรชัย แสงสุขเอี่ยม อายุ 52 ปี ซึ่งทั้ง 5 คนนี้ดูแลกิจการธุรกิจของตระกูลแสงสุขเอี่ยมต่อจากนายฮะและนางสุวรรณ

หากกล่าวถึงกลุ่มชัยนาวี ผู้ประกอบธุรกิจประมงรายใหญ่ใน จ.สมุทรสาคร ที่มีอายุกว่า 50 ปี นับตั้งแต่ประมงขนาดเล็ก กระทั่งก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดชัยนาวีในปี 2512 ก่อตั้งบริษัท ชัยนาวีห้องเย็น จำกัด ในปี 2519 เป็นผู้บุกเบิกกิจการห้องเย็นของจังหวัดสมุทรสาคร บริษัท ชัยนาวีการกระมง จำกัด ก่อตั้งปี 2526

ส่วนกิจการที่ครอบครัวนายวันชัยดูแลอยู่ ได้แก่ บริษัท ซีวิค ฟู้ด อินดัสตรี จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2531 ให้บริการคลังสินค้าห้องเย็น, บริษัท ซี เฮริเทจ ฟิชเชอรี่ จำกัด กับ บริษัท ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิชเชอรี่ จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2539 ประกอบธุรกิจการประมงน้ำลึกและประมงชายฝั่ง และบริษัท ซีวิค รีเฟอร์ ไลน์ จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2554 ประกอบกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า

บทบาทของนายวันชัย เป็นนักธุรกิจการประมงนอกน่านน้ำไทย อุตสาหกรรมต่อเนื่องการประมง อดีตสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อดีตกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร อดีตนายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย ปี 2540-2543 อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการประมงและการเกษตร อดีตสมาชิกสมัชชาแห่งชาติและผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนงานการเมือง ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระบบสรรหา ภาคเอกชน ตั้งแต่ 2 มีนาคม 2551 ถึง 18 มกราคม 2554

การลงสู่สนามการเมืองเพื่อชิงตำแหน่ง ส.ว.สมุทรสาคร ของนายวันชัยเที่ยวนี้ ได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองอาวุโสในจังหวัดสมุทรสาครเป็นอย่างดี เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างตระกูลแสงสุขเอี่ยม กับตระกูลนักการเมืองอาวุโสนั้นถือว่ามีความใกล้ชิด โดยเฉพาะงานสังคม หากมีนางสุวรรณมาร่วมงานก็จะต้องมีคนในตระกูลนักการเมืองอาวุโสมาด้วย

ว่ากันว่า ก่อนหน้านี้ตระกูลนักการเมืองอาวุโสในสมุทรสาครให้การสนับสนุนข้าราชการระดับสูงรายหนึ่ง ที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ แต่ภายหลังได้หันมาสนับสนุนนายวันชัย เพราะที่ผ่านมาเห็นว่าตระกูลแสงสุขเอี่ยมทำคุณประโยชน์ให้จังหวัดสมุทรสาครมานาน โดยเฉพาะนางสุวรรณซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณงามความดี บริจาคทุนทรัพย์ให้กับโรงเรียนและองค์กรต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

การเลือกตั้งเที่ยวนี้ นายวันชัยจะต้องเจอกับ นายสุนทร วัฒนาพร ประธานกรรมการบริษัท อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง จำกัด บุตรของนายสมศักดิ์ และนางสุรีย์ วัฒนาพร ผู้ก่อตั้งกิจการข้าวเกรียบและน้ำพริกเผาพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ภายใต้สโลแกน “คำไหน คำนั้น” ซึ่งให้ความสนใจลงสู่สนามการเมืองมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2548

นายสุนทร วัฒนาพร เกิดเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2497 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์ : สหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร กรรมการหอการค้าไทย ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน จ. สมุทรสาคร ด้านเศรษฐกิจ ที่ปรึกษาชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร และอีกหลายตำแหน่ง

หากเปรียบเทียบว่าที่ผู้สมัครทั้งสองรายแล้ว ทั้งสองเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน เพิ่งเข้าสู่สนามการเมืองเหมือนกัน แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่นายสุนทรจะได้เปรียบจากการปรากฎตัวผ่านสื่อ โดยเฉพาะการเป็นพิธีกรในรายการ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ทางช่อง 3 ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช เคยเป็นพิธีกร รวมทั้งมักจะพบเห็นภาพกิจกรรมของนายสุนทรตามหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับต่างๆ

ขณะที่นายวันชัยแม้จะออกมาแนะนำตัวได้ไม่นาน แต่นางสุวรรณ มักจะเห็นออกงานสังคมเป็นประจำ โดยเฉพาะกิจกรรมสาธารณกุศล เช่น งานมอบทุนการศึกษา “กิ๋วอ้วงฮุดโจ้ว เชงเฮียงตั๊ว” ซึ่งตระกูลแสงสุขเอี่ยมจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมักจะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณกุศลเป็นประจำ เช่น เหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายประดิษฐ สุขโชคชัยกุล อดีตผู้สมัคร ส.ว.สมุทรสาครปี 2551 ออกมาเปิดเผยเมื่อหลายเดือนก่อนว่าตนจะไม่ลงสมัคร ส.ว.ครั้งนี้ แต่จะให้การสนับสนุนนายสุนทรลงสมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า “เสี่ยดำ” นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล ส.ว.สมุทรสาครคนปัจจุบัน ก็ให้ความสนใจเช่นกัน หากการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. แล้วเสร็จทัน

ทั้งนี้ การแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว.ที่กำลังพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา โดยมาตรา 3 มีสาระสำคัญคือให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง 200 คน โดยให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ส่วนหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไชในการเลือกตั้งและหาเสียงของส.ว.ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งเป็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญ

ในช่วงปลายปีเราอาจจะได้เห็นความคึกคักของผู้สมัครแต่ละราย แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ บทบาทหน้าที่ของ ส.ว. ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ โดยเฉพาะการกลั่นกรองกฎหมาย การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน การเลือก แต่งตั้ง ให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง

หากเราได้ ส.ว.น้ำดีที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ก็จะเป็นความภาคภูมิใจของคนสมุทรสาครอีกทางหนึ่งด้วย.

• • •

อำนาจหน้าที่ของ ส.ว.

1. การกลั่นกรองกฎหมาย – ส.ว.มีอำนาจในการกลั่นกรองกฎหมาย โดยสามารถแก้ไขร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ เพื่อให้การออกกฎหมายเป็นไปด้วยความรอบคอบ รัดกุม และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

2. การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน – หน้าที่ควบคุมการบริหารงานของรัฐบาล โดยการตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรี หรือตั้งคณะกรรมาธิการไปศึกษางานด้านต่างๆ ให้มีการตรวจสอบฝ่ายบริหาร เพื่อให้มีข้อสังเกต คำแนะนำ และกระตุ้นเตือนรัฐบาล รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจของรัฐบาล

3. การเลือก แต่งตั้ง ให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นชอบ – กำหนดบทบาทและอำนาจหน้าที่ให้วุฒิสภา ทำหน้าที่เลือก แต่งตั้ง ให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรต่างๆโดยเฉพาะองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

4. การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง – วุฒิสภามีอำนาจในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงทั้งด้านบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ เป็นไปด้วยความระมัดระวัง และเป็นธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน