2 ปี ‘ทองนาค’ ตายหนึ่งเกิดแสน

499

ช่วงสายของวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 ขณะที่พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวและของชำนามว่า “ทองนาค เสวกจินดา” วัย 47 ปี กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอลูกค้าที่หน้าบ้านในหมู่ 4 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร คนร้าย 2 คนขับขี่มอเตอร์ไซค์ มาถึงใช้อาวุธปืนลั่นไกสังหารเขาหลายนัด อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ก่อนที่จะหลบหนีไป

เมื่อพลเมืองดีมาเห็น ได้นำร่างที่ชุ่มด้วยเลือดส่งโรงพยาบาลมหาชัย แต่ระหว่างทาง ทองนาคทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกยิงไหล่ซ้าย 3 รู หน้าท้อง 2 รู ราวนมด้านซ้าย 2 รู ด้านหลัง 2 รู รวมทั้งหมด 9 แผล เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของทองนาคเป็นที่พูดถึงในแวดวงนักสิทธิมนุษยชน เพราะพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวและของชำคนนี้ อีกสถานะหนึ่งเขาเป็นหนึ่งในแกนนำต่อต้านถ่านหิน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตจังหวัดสมุทรสาคร ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านผู้ประกอบการถ่านหินในพื้นที่

ในช่วงที่ผ่านมา ถ่านหินกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเป็นลำดับต้นๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากผู้ประกอบการนำเข้าและจำหน่ายถ่านหินหลายรายขาดความรับผิดชอบ ปล่อยให้ถ่านหินหล่นลงไปในน้ำ ทำให้สัตว์น้ำสูญหายไปจากแม่น้ำท่าจีน รวมทั้งการเก็บก่องถ่านหินแบบเปิดโล่งทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ

ความเดือดร้อนของชาบ้านที่เกิดขึ้นของทั้ง 3 ตำบล นำมาซึ่งแรงกดดันให้เกิดการชุมนุมปิดถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการถ่านหินทุกรายในจังหวัดหยุดดำเนินการทันที

แน่นอนว่าคำสั่งหยุดประกอบกิจการถ่านหินของจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากทำให้ผู้ประกอบการนำเข้าและจำหน่ายถ่านหินเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาลแล้ว ผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องอย่างเช่น เจ้าของรถบรรทุกขนส่งถ่านหิน ก็พลอยสูญเสียรายได้ติดต่อกันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการบางรายพยายามลักลอบขนส่งถ่านหิน มีการร้องเรียนเกิดขึ้นมาอีก ซึ่งก่อนที่ทองนาคเสียชีวิต รถบรรทุกของ ธนยศ วงศ์พิมพ์ หรือ “เสี่ยเบื๊อก” ซึ่งขนถ่านหินคลุมผ้าใบและบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ถูกเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทตั้งด่านตรวจจับกุมบริเวณ ต.ท่าทราย

และการเสียชีวิตของนายทองนาคครั้งนี้ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหายกทีม ทั้งหมด 5 คน ก่อนจะมีการซัดทอดถึงผู้จ้างวานไปถึง “เสี่ยเบื๊อก” ซึ่งเป็นนักธุรกิจขนส่งถ่านหิน คุมเรื่องการขนส่งถ่านหินโดยตรง ซึ่งขัดแย้งกับนายทองนาค

ทองนาคเป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวการก่อสร้างโรงงานและท่าเรือในพื้นที่ ซึ่งก่อมลพิษและรุกล้ำแม่น้ำท่าจีน ในช่วงต้นปี 2551 และเมื่อมีนายทุนซื้อที่ดินแถบริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก ในพื้นที่ ต.ท่าทราย ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อประกอบกิจการถ่านหิน ความเดือดร้อนของชาวบ้านเริ่มมีมากขึ้น

กระทั่งเขาตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 พร้อมชาวบ้านกว่า 20 คน เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว กรณีหน่วยงานรัฐอนุญาตให้บริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาประกอบการตั้งโรงงานถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

หลังการเสียชีวิตของนายทองนาคผ่านไปไม่นานนัก วันที่ 1 สิงหาคม 2554 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียง การเก็บกอง การขนถ่าย การขนส่งหรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.ท่าทราย

กระทั่งต่อมาในวันที่ 2 สิงหาคม 2554 คดีนายทองนาคได้มีการโอนเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครอง ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การพิจารณาคดีมีความรวดเร็วมากขึ้น

499-2

กลุ่มชาวบ้านตำบลท่าทราย แสดงความดีใจหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ยุติการประกอบกิจการถ่านหินของบริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ช่วยดำเนินกระบวนการต่อสู้ในทางคดีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (ภาพจากเฟซบุ๊ก สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน)

เกือบ 2 ปีที่คดีนี้ชาวตำบลท่าทรายต่างลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ อบต.ท่าทราย สั่งห้ามมิให้บริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) ใช้อาคารที่ก่อสร้างประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการทำเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากถ่านหิน ในท้องที่ ต.ท่าทราย

ในส่วนของโกดังสินค้า ศาลมีคำสั่งให้ อบต.ท่าทรายดำเนินการให้บริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) แก้ไขการขออนุญาตก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 เนื่องจากในการขออนุญาตไม่ได้แนบแผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน หรือรายการคำนวณอาคารแนบมาด้วย

จุดพลิกผันที่ทำให้ศาลปกครองพิพากษา เกิดขึ้นมาจากการที่บริษัท เทคนิทีม (ประเทศไทย) มีการใช้อาคาร สถานที่ และยานพาหนะซึ่งเดินด้วยกำลังเครื่องจักร ซึ่งปรากฎว่ามีการประกอบการบรรจุ ลำเลียง เก็บรักษา และมาทำเป็นเชื้อเพลิงก้อนหรือเชื้อเพลิงสำเร็จรูปในลักษณะคัดขนาดเพื่อการจำหน่าย

แม้จะไม่มีกระบวนการอัดผงถ่านหินให้เป็นแท่งหรือเป็นก้อน แต่ศาลเห็นว่าการคัดขนาดเพื่อการจำหน่าย ย่อมถือได้ว่าเป็นการประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการทำเชื้อเพลิงก้อนหรือเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากถ่านหิน จึงเป็นโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน ปี 2535

และเมื่อสถานที่ตั้งโรงงานอยู่ในบริเวณพื้นที่สีเขียวประเภทชนบทและเกษตรกรรม ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการโรงงานทุกจำพวก ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ศาลจึงชี้ชัดว่า ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อประกอบกิจการโรงงานประเภทดังกล่าวได้

เป็นชัยชนะของประชาชนชาวตำบลท่าทราย พร้อมกับประจานความบกพร่องของ อบต.ท่าทราย และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ที่ปรากฎชัดว่าการปล่อยให้ผู้ประกอบการถ่านหินสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้าน ถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่

ส่วนคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี ซึ่งก็คือการสั่งระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณีในพื้นที่ ต.ท่ทราย ให้มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

อาจเรียกได้ว่า นับจากนี้ต่อไปตำบลท่าทรายกลายเป็นพื้นที่ปลอดโรงงานถ่านหิน เพียงแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเท่ากับเป็นการชุบชีวิตให้ชาวบ้านโดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวริมแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตกได้หายใจทั่วท้อง แม้ในหมู่อื่นจะมีมลพิษจากการประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่แปรรูปอาหารทะเลก็ตาม

การเสียชีวิตของนายทองนาค ยังทำให้การประกอบกิจการถ่านหินของจังหวัดสมุทรสาครมีความตื่นตัว โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้คณะกรรมการเบญจภาคีจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจสอบ โดยการขนย้ายถ่านหินออกจากพื้นที่ให้หมด และกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาจากการประกอบกิจการถ่านหินที่จังหวัดได้กำหนดไว้

บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการถ่านหินรายแรกในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้รับการยกเลิกคำสั่งระงับการประกอบกิจการถ่านหิน เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2555 หลังทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เพื่อรับประกันปัญหาด้านป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก่อนจะดำเนินกิจการตามปกติ

รายต่อมา คือ บริษัท มหาชัย เอนเนอจี จำกัด ได้รับการยกเลิกคำสั่ง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555 และรายที่สาม ได้แก่ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) ได้รับการยกเลิกคำสั่ง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 แต่ผู้ประกอบการทั้งสามรายทำได้แค่เพียงจัดจำหน่ายถ่านหินในลักษณะซื้อมาขายไป โดยใช้คลังสินค้าเพื่อจัดเก็บเป็นสต็อก และจัดส่งแก่ลูกค้าตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เท่านั้น

ส่วนการขนถ่ายถ่านหินทางเรือ ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยราชการอย่างเคร่งครัดไม่ให้มีการขนถ่ายถ่านหินที่บรรทุกทางเรือผ่านแม่น้ำท่าจีนเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งยังมีปฏิกิริยาของชาวประมงที่ไม่ยอมให้มีการขนถ่ายถ่านหินทางเรือในแม่น้ำท่าจีนอีกต่อไป

499-3

คณะกรรมการเบญจภาคีจังหวัดสมุทรสาคร ประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ผู้แทนผู้ชุมนุม และผู้แทนสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบสถานประกอบการ ก่อนที่ผู้ประกอบการถ่านหินจะออกมาตรการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการคัดแยกและขนถ่ายถ่านหินด้วยระบบปิด และการขนส่งถ่านหินโดยบรรทุกอย่างรัดกุม นับเป็นการปรับเปลี่ยนการประกอบกิจการถ่านหินของจังหวัดสมุทรสาครเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน (ภาพจากแฟ้ม)

มาตรฐานใหม่ของผู้ประกอบการถ่านหินที่จะต้องปฏิบัติตาม ยกตัวอย่างเช่น เอเชีย กรีน เอนเนอจี ได้ออกแบบโรงงานถ่านหินเป็นระบบปิด โดยมาตรการที่ทางบริษัทได้นำมาใช้จะใช้ระบบ 3 ปิด คือ 1. การคัดแยกและการขนถ่ายถ่านหิน ทำในอาคารโรงงานระบบปิดเท่านั้น 2. การขนส่งและการบรรทุกระบบปิด 10 ขั้นตอน และ 3. การดูแลความสะอาดระบบปิดภายในบริเวณรอบอาคารโรงงาน ถนนทางเข้า-ออก โดยใช้รถดูดฝุ่นระบบปิด

ส่วนยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส มีมาตรการที่จะไม่ให้เกิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อม และควบคุมการประกอบกิจการมิให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย จะดำเนินการคัดแยกถ่านหินภายในอาคารโรงงานระบบปิดเท่านั้น และมีระบบบ่อดักตะกอน ทำการบำบัดหมุนเวียนกลับมาใช้ภายในกิจกรรมของสถานประกอบการโดยไม่ปล่อยทิ้งออกไปนอกสถานประกอบการ และหยุดใช้ท่าเรือโดยใช้รถบรรทุกในการขนส่งถ่านหินแทน การขนถ่ายจะป้องกันมิให้เกิดมลภาวะทางอากาศ

การปรับเปลี่ยนมาตรฐานการประกอบกิจการถ่านหินในจังหวัดสมุทรสาครของผู้ประกอบการเหล่านี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรับผิดชอบต่อสังคม บนพื้นฐานที่ว่าทำอย่างไรที่จะให้โรงงานและชุมชนอยู่ร่วมกันได้ โดยผู้ประกอบการจำเป็นต้องเสียสละ ด้วยการหยุดขนส่งถ่านหินทางน้ำ และลงทุนการจัดเก็บถ่านหินระบบปิด รวมทั้งมีกระบวนการตรวจสอบทั้งคุณภาพน้ำ และคุณภาพอากาศ ซึ่งถือว่าเป็นการนำบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตมาปรับใช้ให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุดขึ้น

นับเป็นตัวอย่างของความรับผิดชอบต่อสังคม ที่เกิดจากการต่อสู้และความตื่นตัวของคนสมุทรสาคร ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในจังหวัด ซึ่งการเคลื่อนไหวเป็นไปเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนสมุทรสาคร นำไปสู่การแก้ไขและรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจแก่ทุกฝ่าย ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจยิ่ง

499-4

การเสียชีวิตของนายสุชชเดช ทับไกร หนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นมือชี้เป้าสังหารนายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านถ่านหิน เมื่อปี 2555 ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าผลสุดท้ายจะเป็นการฆ่าตัดตอนเพื่อไม่ให้สาวไปถึงผู้บงการหรือไม่ ขณะที่ภรรยานายทองนาคกล่าวว่า คดีนี้น่าจะตัดสินในศาลชั้นต้นสิ้นปี 2556 (ภาพ : บุญเลิศ โกมลหิรัญ)

ส่วนคดีสังหารนายทองนาคนั้น ที่ผ่านมาหนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญอย่าง สุชชเดช ทับไกร หรืออี๊ด หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นมือชี้เป้าสังหารทองนาคถูกยิงอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ ใจกลางเมืองมหาชัย เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมาแกนนำต่อต้านถ่านหินเกิดความหวั่นไหวว่าคดีฆ่าทองนาคอาจสาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่

ล่าสุดจากการเปิดเผยของ จอมขวัญ เสวกจินดา ภรรยานายทองนาค ที่กล่าวในวันทำบุญอุทิศส่วนกุศลว่า หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนหรือถูกดึงเกม ศาลชั้นต้นก็น่าจะพิจารณาตัดสินจบลงในสิ้นปี 2556 นี้ หลังจากได้สืบพยานไปแล้วทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย

แม้วันเวลาผ่านไป 2 ปีที่ผ่านมา คดีนายทองนาคยังไม่ถึงวันพิพากษา ท่ามกลางความหวั่นไหวที่ว่า สุดท้ายความตายของทองนาคจะสูญเปล่าหรือไม่ แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการประกอบกิจการถ่านหิน รวมทั้งคำสั่งศาลปกครองล่าสุด ที่ทำให้ท่าทรายเป็นเขตปลอดถ่านหิน ก็เป็นสิ่งที่ต่อชีวิตแก่คนสมุทรสาครนับแสนคน

แม้ความตายของมนุษย์จะไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่ประโยชน์ของความตายที่ทำให้สังคมลุกขึ้นมาต่อต้านและทวงถามความรับผิดชอบของผู้ประกอบการถ่านหิน ถือเป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า “ตายสิบเกิดแสน” เป็นบทเรียนสำคัญที่คนสมุทรสาครซึ่งมีจิตสาธารณะหลายคนต้องจดจำ

ด้วยจิตคารวะ…

• • •

อ่านประกอบ

• ถอยคนละก้าว’ปลดล็อก’ระงับถ่านหิน (8 ธันวาคม 2555)
• แค้นสั่งตาย “ไอ้อี๊ด” มือชี้เป้าฆ่า “ทองนาค” (5 พฤษภาคม 2555)
• บันทึกไว้ในโลกา นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน “ทองนาค เสวกจินดา” (28 มกราคม 2555)
• หมายเหตุสาครออนไลน์ : หยุดวิกฤตนองเลือดสมุทรสาคร (25 ธันวาคม 2554)
• ถ่านหิน ศัตรูประชาชน จาก “เจริญ วัดอักษร” ถึง “ทองนาค เสวกจินดา” (28 กรกฎาคม 2554)

ข่าว / รายงานพิเศษ
• “ศรีสุวรรณ จรรยา” เขียนถึงเจตนารมณ์ “ทองนาค” กับคำพิพากษาศาลปกครอง (19 กรกฎาคม 2555)
• ปิดฉาก “เทคนิทีม” ศาลปกครองสั่งห้ามทำถ่านหิน ชี้คัดแยกขนาดเข้าข่ายโรงงาน (18 กรกฎาคม 2555)
• ลุ้นศาลปกครองตัดสินคดีถ่านหิน 18 ก.ค.-ภรรยา “ทองนาค” เชื่อคดีจบลงปีนี้ (13 กรกฎาคม 2555)
• ศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับประกอบกิจการ “ถ่านหิน” พื้นที่ท่าทรายทุกกรณี (11 มิถุนายน 2555)
• ประชาชน-เอ็นจีโอร่วมอาลัยแห่เผา “ทองนาค” แกนต้านถ่านหินเนืองแน่น (10 มิถุนายน 2555)
• ฌาปณกิจศพ “ทองนาค” วันอาทิตย์นี้-อัยการเผยไต่สวนคดีต่อ 19 มิ.ย. (6 มิถุนายน 2555)
• เบิกความ “กำพล” แกนนำต้านถ่านหินไต่สวนพยานคดียิง “ทองนาค” นัดที่ 3 (17 พฤษภาคม 2555)
• ศาลสมุทรสาครไต่สวนคดีฆ่า “ทองนาค” นัดที่สองไม่เสร็จ-นัดใหม่ 17 พ.ค. (15 พฤษภาคม 2555)
• มาตามนัด! เบิกความคดีฆ่า “ทองนาค” นัดแรก-ผู้ว่าฯ เบิก 4.5 ล้านซ่อมกล้อง (10 พฤษภาคม 2555)
• ชาวบ้านแคลงใจกล้องวงจรปิดเสีย 9 ตัว ทำตำรวจมืดแปดด้านสืบคดียิง “ไอ้อี๊ด” (8 พฤษภาคม 2555)
• สะพัดทีมฆ่า “ทองนาค” แห่หลบหนีหวั่นถูกเก็บ-เชื่อมือยิง “ไอ้อี๊ด” ไม่ใช่ธรรมดา (6 พฤษภาคม 2555)
• ชี้ปมยิง “ไอ้อี๊ด” พัวพันยา-คดีฆ่าคน แกนนำต้านถ่านหินหวั่นล้มคดีทองนาค (4 พฤษภาคม 2555)
• ยิงตัดตอน “ไอ้อี๊ด” ผู้ต้องหาฆ่า “ทองนาค” แกนนำต้านถ่านหินกลางมหาชัย (3 พฤษภาคม 2555)
• ภรรยา “ทองนาค” แกนนำต้านถ่านหินเตรียมจัดพิธีฌาปณกิจศพ 8-10 มิ.ย.นี้ (28 เมษายน 2555)
• ภรรยา “ทองนาค” ดีใจสื่อระลึกถึงความดี เผยยังมีบางโรงงานแอบขนถ่ายถ่านหิน (12 มีนาคม 2555)
• กรรมการสิทธิ์ฯ มอบรางวัล “ทองนาค เสวกจินดา” นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน (26 มกราคม 2555)
• กลุ่มต้านถ่านหินทำบุญเคลื่อนไหวครบ 1 ปี พบร้อง “กะลาปาล์ม” ก่อฝุ่น-กลิ่นเหม็น (15 กรกฎาคม 2555)
• “ฮิวแมนไรท์วอซ” ยกย่อง “ทองนาค เสวกจินดา” บรรจุเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน (22 มกราคม 2555)
• ภรรยา “ทองนาค” ฟ้องแพ่งมือสังหาร 5 ล้าน “สนธิญา” แฉนายทุนถ่านหินฉวยโอกาสช่วงน้ำท่วม (25 ธันวาคม 2554)
• สั่งฟ้อง 7 ผู้ต้องหาฆ่า “ทองนาค” แกนนำถ่านหิน (29 พฤศจิกายน 2554)
• พยานทองนาคแจ้งความถูก “เสี่ยเบื้อก” ข่มขู่ (2 ตุลาคม 2554)
• ภรรยาทองนาคหวั่นคดีล้ม-ชาวสวนส้มปลื้มน้ำใสดีวันดีคืน (21 กันยายน 2554)
• หวั่นคดีสังหาร “ทองนาค” ส่อมวยล้ม “เสี่ยเบื้อก-ผู้ใหญ่เล็ก” ประกันตัวแล้ว (18 สิงหาคม 2554)
• สอบ 6 โรงงานถ่านหินรวม 4.7 แสนตัน-ภรรยา “ทองนาค” หวั่นคดีมวยล้ม (11 สิงหาคม 2554)
• เทคนิทีมยอมให้เบญจภาคีตรวจแล้ว-สภาทนายความช่วยเหลือภรรยาทองนาค (8 สิงหาคม 2554)
• ผู้ต้องหารายสุดท้าย “ไอ้อุ้ย” มอบตัวคดีฆ่าทองนาค โอดถูกเบี้ยวค่าจ้าง 5 พัน! (4 สิงหาคม 2554)
• “เสี่ยเบื๊อก” มอบตัวตำรวจปฏิเสธจ้างวานฆ่า “ทองนาค” แกนนำต้านถ่านหิน (3 สิงหาคม 2554)
• ศาลปกครองจี้เคร่งครัดคำสั่งศาลระงับถ่านหิน (2 สิงหาคม 2554)
• “เสี่ยเบื๊อก” ตัวบงการฆ่า “ทองนาค” แกนนำต้านถ่านหินมอบตัวพรุ่งนี้ (2 สิงหาคม 2554)
• “ไอ้บอย” ควงคู่ “ผู้ใหญ่เล็ก สวนส้ม” มอบตัวคดีฆ่าทองนาค สารภาพรับงาน 3 แสน (1 สิงหาคม 2554)
• “ศาลปกครองกลาง” สั่งห้ามประกอบกิจการถ่านหินในพื้นที่ท่าทรายทุกกรณี (1 สิงหาคม 2554)
• จับได้แล้ว 3 คนมือฆ่า “ทองนาค” แกนนำถ่านหิน-ผู้ประกอบการขนส่งจ้างยิง 1.5 แสน (1 สิงหาคม 2554)
• คลายปมคดีฆ่า “ทองนาค” จดทะเบียนปืนที่บ้านแพ้ว-กลุ่มต่อต้านถ่านหินทำบุญ 7 วันพุธนี้ (31 กรกฎาคม 2554)
• รองผู้การภาค 7 มั่นใจภายใน 2 วันลากคอมือฆ่า “ทองนาค” (31 กรกฎาคม 2554)
• กลุ่มต้านถ่านหินแห่โลงศพขอความเป็นธรรม “ทองนาค” ผู้กำกับฯ เปรยอาจมีข่าวดี (31 กรกฎาคม 2554)
• รอง ผบ.ตร.เผย “ปืน 40 มม.” สังหารทองนาค-แกนนำชี้จับตาเบญจภาคีบุกโรงงานถ่านหิน (30 กรกฎาคม 2554)
• ตั้งรอง ผบ.ตร.คุมคดีสังหาร “ทองนาค” แกนนำถ่านหิน-ตั้งค่าหัว 5 หมื่นล่าฆาตกร (30 กรกฎาคม 2554)
• ภรรยาร่ำไห้รับศพ “ทองนาค” แกนนำถ่านหิน-เลื่อนแห่โลงศพเลี่ยงวันพระใหญ่ (29 กรกฎาคม 2554)
• ม็อบถ่านหินเตรียม “แห่โลง” รอบเมืองขอความเป็นธรรมหลังแกนนำถูกสังหารดับ (29 กรกฎาคม 2554)
• แกนนำม็อบต้านถ่านหินหมู่ 4 ท่าทรายเสียชีวิตแล้วหลังถูกคนร้ายลอบยิง (28 กรกฎาคม 2554)



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง