“มิสแกรนด์สมุทรสาคร” อย่ามองเวทีเพียงแค่ทางผ่าน

ภาพจาก facebook.com/missgrandsamutsakhon

ผ่านพ้นไปอย่างฉุกละหุกสำหรับการประกวด “มิสแกรนด์สมุทรสาคร 2017” ที่แทบจะกลายเป็น “มิสแกรนด์บ้านบางแค” เพราะในรอบตัดสิน กลับไปจัดการประกวดที่ศูนย์การค้าซีคอน บางแค กรุงเทพมหานคร

สร้างความไม่พอใจให้แก่คนสมุทรสาคร โดยเฉพาะ นายชวพล วัฒนพรมงคล กรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า “เอาหน้าและเกียรติคนสมุทรสาครไปทิ้งไว้ที่ไหน?”

กระทั่งกองประกวดมิสแกรนด์สมุทรสาคร ระบุว่า เหตุที่ย้ายไปจัดที่กรุงเทพฯ เพราะสปอนเซอร์ในจังหวัดสมุทรสาครไม่พร้อมร่วมสนับสนุนการจัดงานนี้ได้อีกครั้ง หลายฝ่ายบอบช้ำและเสียหายกับครั้งที่ผ่านมา

มองด้านหนึ่งแม้จะค้านสายตา แต่อีกด้านหนึ่งก็มองว่าน่าเห็นใจ หากเกิดจากการหาสถานที่ไม่ทันในเวลาอันจำกัด หากใครได้ผ่านประสบการณ์จัดงานอีเวนต์มาก่อน การหาสถานที่ในระยะเวลาจำกัดไม่ใช่เรื่องง่าย

เป็นที่ทราบกันดีว่า ได้มีการประกวดรอบตัดสินมิสแกรนด์สมุทรสาคร 2017 ไปแล้วรอบหนึ่ง ภายใต้การดูแลของ นางพรทิพย์ วงษ์เชิดขวัญ ผู้บริหารโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเจล ผู้ถือสิทธิ์มิสแกรนด์สมุทรสาคร

ในครั้งนั้นจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าพอร์โต้ ชิโน่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า น.ส.เกวลี ทวดสิญจน์ หรือน้องอาย อายุ 23 ปี ศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คว้ามงกุฎไปครอง

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าตัดสินไม่เป็นธรรม เพราะไม่พบว่า น.ส.เกวลี เข้าร่วมกิจกรรมกับทางกองประกวดเพื่อเก็บคะแนนมาก่อน คนอื่นทำกิจกรรมมาตลอดกลับตกรอบ กังขาว่ามีการล็อกผลมาก่อนหรือไม่

กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ จึงได้สั่งยุติบทบาท นางพรทิพย์ ผู้ถือสิทธิ์การประกวดมิสแกรนด์สมุทรสาคร 2017 และให้ น.ส.เกวลี นางงามที่ได้รับตำแหน่งเป็นโมฆะ

จนถึงตอนนี้ นางพรทิพย์ยังไม่ได้ชี้แจงใดๆ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “ล็อกสเปก” อย่างที่กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ หรือผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ กล่าวหาหรือไม่

ต่อมาได้เปลี่ยนผู้ถือลิขสิทธิ์และทีมงานใหม่ โดยทีมงานชุดเดิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการจัดประกวดมิสแกรนด์สมุทรสาครอีกต่อไป กระทั่งการประกวดผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น

เหตุผลที่ต้องรีบจัด เพราะจะต้องส่งผลการประกวดไปให้กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ภายในวันที่ 31 พ.ค. จากนั้นจะให้สาวงามทั้ง 77 จังหวัด เก็บตัวระหว่างวันที่ 24 มิ.ย. – 4 ก.ค. ที่ จ.เชียงใหม่

ก่อนจะเข้าสู่การประกวดรอบชุดราตรีและชุดว่ายน้ำในวันที่ 6 ก.ค. แล้วคัดเลือกผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายไปสู่รอบตัดสิน ในวันที่ 8 ก.ค. 2560 ณ อีเวนต์ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

การประกวดครั้งนี้ ควบคุมการผลิตและการจัดการ โดย นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล นำผู้ชนะจากแต่ละจังหวัดมาประกวดระดับประเทศ ก่อนส่งไปแข่งขันเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล และเวทีระดับนานาชาติต่างๆ

สิ่งที่กังขาซึ่งเชื่อว่าคนจังหวัดอื่นตั้งข้อสังเกตไม่แพ้กัน คือเวทีมิสแกรนด์แต่ละจังหวัด แม้จะเปิดโอกาสให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้อำนวยการกองประกวด (พีดี) แต่ก็พบว่าการคัดเลือกสาวงามยังคงจับฉ่าย

กลายเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ “นางงามเดินสาย” เข้ามาประชันความงาม โดยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนา มีทะเบียนบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร ศึกษาหรือทำงานในจังหวัดสมุทรสาครแต่อย่างใด

เอาแค่ผู้ชนะมิสแกรนด์สมุทรสาครรอบแรก ก่อนตัดสินโมฆะอย่างน้องอาย พบว่าเป็นคนสุราษฎร์ธานี แล้วมารอบนี้ มิสแกรนด์สมุทรสาคร น.ส.ปฐมาวดี ช่วยประสิทธิ์ หรือน้องไอติม อายุ 25 ปี ก็เป็นคนเชียงใหม่

เคยเข้าประกวดในเวทีมิสแกรนด์มาแล้ว 3 เวที คือ มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ 2016 ได้รองอันดับหนึ่ง, เวทีมิสแกรนด์บ้านโป่ง 2017 ได้ตำแหน่งชนะเลิศ แล้วไปประกวดมิสแกรนด์ราชบุรี 2017 ได้รองอันดับสอง

ทำให้น่ากังขาว่า มิสแกรนด์สมุทรสาคร เป็นคนสมุทรสาครอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงการเอาชื่อเวทีมาตั้งเป็นตำแหน่งเท่านั้น ไม่นับรวมรอบตัดสินที่ไปใช้ศูนย์การค้าซีคอน บางแค หากตัดประเด็นหาสถานที่ไม่ทัน

ไม่มีการพิสูจน์ว่า ผู้เข้าประกวดศึกษา พักอาศัย หรือทำงานในจังหวัดสมุทรสาครหรือไม่ แล้วจะเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งจังหวัดได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวทีประกวดขาอ่อนระดับภูธรจะเป็นนางงามเดินสาย ตัวอย่างเช่นเทพีสงกรานต์ หรือนางนพมาศแต่ละแห่ง แทบจะมีน้อยมากที่เป็นการประกวดสาวงามโดยวัดจากภูมิลำเนา

เว็บไซต์ MGR Online รายงานว่า ที่ผ่านมาเวทีการประกวดมิสแกรนด์ 2017 ในแต่ละจังหวัด มีปัญหาอยู่ตลอดเวลาแทบจะเป็นดราม่ารายเวที ถึงขั้นสั่งปลดนางงามที่ได้รับตำแหน่งไปแล้วกันเป็นว่าเล่น

ไม่ว่าจะเป็น น.ส.วาสนา อินโฉมงาม หรือ น้องลูกวาส มิสแกรนด์สุรินทร์ 2017 ถูกสั่งปลดเพราะไปประกวดเวทีอื่นระหว่างดำรงตำแหน่งโดยพลการ

น.ส.ปุญญาพร ราชฤทธิ์ หรือ น้องน้ำหวาน มิสแกรนด์สตูล 2017 ถูกปลดเพราะไปประกวดเวทีอื่นในขณะดำรงตำแหน่งมิสแกรนด์สตูลอยู่

น.ส.อัจจิมา โกสุมา หรือ น้องมีน มิสแกรนด์น่าน 2017 ขอสละตำแหน่ง อ้างว่าไม่สามารถปฎิบัติตามกฎของกองได้ ก่อนที่นายณวัฒน์จะแฉว่าผู้เข้าประกวดก่อเรื่องไว้เยอะ พอไม่มีทางไปก็เลยปลดตัวเอง

พร้อมถามกลับว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการจัดงาน

ส่วน น.ส.อรอุมา วรศิริ หรือ น้องเอมอร มิสแกรนด์สงขลา 2017 ก็มีข่าวว่าเกือบที่จะสละตำแหน่ง เพราะมีแฟนนางงามบางกลุ่มเข้าไปต่อว่าด่าทอ และดูถูกเรื่องความยากจน เจ้าตัวและมารดาเกิดอาการเครียด

แต่ทางแฟนเพจมิสแกรนด์สงขลา ก็ออกมายืนยันว่าเจ้าตัวนั้นจะทำหน้าที่ต่อไป

สารพัดเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ควรทบทวน และปรับเปลี่ยนในปี 2018 ให้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมาตรฐานที่คนท้องถิ่นคาดหวังว่า สาวงามจะมาจากคนพื้นที่จริงๆ

ขนาดรายการประกวดร้องเพลง อย่างกิ๊กดู๋สงครามเพลงเงินล้าน ยังมีทีมของแต่ละจังหวัด มาจากคนจังหวัดนั้นจริงๆ ประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาทได้เลย ทำไมการประกวดสาวงามถึงทำไม่ได้

และต้องยอมรับความจริงว่า การประกวดมิสแกรนด์สมุทรสาคร 2017 อ่อนประชาสัมพันธ์มากเกินไป คือรับรู้กันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่คนในจังหวัดส่วนใหญ่ไม่ทราบ หรือทราบแต่ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร

สิ่งเหล่านี้ฝากไปถึงกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ นำไปพิจารณาการจัดประกวดในปีต่อไป ก่อนที่คนสมุทรสาครจะรู้สึกอีกอย่าง กระทบกับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนในจังหวัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

– กิตตินันท์ นาคทอง –

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *