ขสมก. จะไปทางไหน? รับไม้ต่อ “ปอ.68 สมุทรสาคร-บางลำพู” หลังเอกชนคืนใบอนุญาต

1 เมษายน 2563 จะเป็นวันแรกที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะเดินรถประจำทางสาย ปอ.68 สมุทรสาคร-บางลำพู หลังผู้ประกอบการรายเดิมตัดสินใจหยุดให้บริการ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และต้องคืนเส้นทางให้ ขสมก.

เบื้องต้น ขสมก.เขตการเดินรถที่ 5 จัดรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ฮีโน่ เอ็นจีวี จำนวน 3 คัน ค่าโดยสารตามระยะทาง เริ่มต้นที่ 13 บาท สูงสุด 25 บาท ออกจากสมุทรสาครเที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 18.00 น. รถออกทุก 1 ชั่วโมง

ถือเป็นการปิดฉากรถร่วมบริการสาย ปอ.68 หลังขยายเส้นทางเดินรถมาถึงจังหวัดสมุทรสาคร ประมาณปี 2548 ให้บริการชาวมหาชัยมานานถึง 15 ปี ก่อนที่จะมีสาย 120 สมุทรสาคร-คลองสาน และสาย ปอ.7 สมุทรสาคร-หัวลำโพง ตามมา

ส่วนผู้ประกอบการรายเดิม คือ บริษัท ต.มานิตย์การเดินรถ จำกัด ยังคงให้บริการรถประจำทางสาย ปอ.7 สมุทรสาคร-หัวลำโพง ต่อไป โดยอาจจะนำรถโดยสารสาย ปอ.68 ที่มีอยู่มาให้บริการเพิ่มเติม จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 20 คัน

แต่ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 จึงได้เปลี่ยนเวลาให้บริการใหม่ โดยเที่ยวแรกออกจากสมุทรสาคร 04.30 น ห่างกันคันละ 1 ชั่วโมง ช่วงบ่ายออกจากสมุทรสาคร 14.00 น. ห่างกันคันละ 1 ชั่วโมง คันสุดท้ายออกจากสมุทรสาร 18.00 น.

นอกจากนี้ ผลกระทบหลังหยุดการเดินรถ ปอ.68 ทำให้บริษัทฯ มีการปรับลดพนักงาน ซึ่งจะมีพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารส่วนหนึ่งต้องตกงาน

ยังมีคำถามตามมาว่า หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ขสมก.จะมีการเดินรถเต็มรูปแบบหรือไม่?

ปัจจุบัน การเดินรถ ปอ.68 ของ ขสมก. เป็นไปในลักษณะ “เดินรถชั่วคราว” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งถ้าจะเดินรถเต็มรูปแบบ ต้องรอให้ผู้ประกอบการรายเดิมคืนใบอนุญาตให้กรมการขนส่งทางบกก่อน

จากนั้น ขสมก. จะเข้าไปดูใบอนุญาต และขออนุญาตเดินรถกับกรมการขนส่งทางบก หากได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว ขสมก. จึงจะสามารถเดินรถเต็มรูปแบบได้

หาก ขสมก. เดินรถโดยพละการ ทำการเดินรถสลับสาย จะต้องเสียค่าปรับให้กรมการขนส่งทางบก 1,000 บาท

อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนจากโซเชียลมีเดีย พบว่าปัญหาหลักในการเดินรถ ปอ.68 ของ ขสมก. คือ “การเติมก๊าซ” เนื่องจากต้องกลับมาเติมก๊าซเอ็นจีวีที่อู่แสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

เพราะฉะนั้น ในบางช่วงเวลาอาจมีรถเสริม สมุทรสาคร-อู่แสมดำ เนื่องจากต้องเข้าไปเติมก๊าซ (จากจุดนี้สามารถต่อรถสาย 68, 76, 140, 141, 142 ได้ที่ปากทางเข้า)

อย่างต่อมาก็คือ “ยังขาดที่จอดรถ” สิ่งอำนวยความสะดวกให้พนักงานและนายท่า เช่น ห้องสุขา เพราะที่ผ่านมารถเมล์ไปสร้างความเจริญที่ไหน พอเจริญแล้วชาวบ้านขับไล่ทุกที

ที่ผ่านมา เขตการเดินรถที่ 5 ได้พูดคุยกับศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเจรจาเรื่องสถานที่จอดรถโดยสาร รองรับแผนปฎิรูปใหม่ 2 เส้นทางในปี 2564 ซึ่งจะมีรถประจำทางทั้งหมด 60 คัน (สายละ 30 คัน)

ปรากฎว่ายังตกลงเรื่องที่จอดรถไม่ลงตัว เพราะทาง ขสมก. จะขอจอดตรงถนนพระราม 2 ที่รถตู้มาจอดอยู่ แต่ทางศูนย์การค้าฯ จะให้ ขสมก. เอารถประจำทางไปจอดข้างใน ซึ่งพบว่าพื้นที่ข้างในเล็ก เข้า-ออกไม่สะดวก และไม่ตอบโจทย์

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของข้อจำกัดในการรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเลยจากฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้าฯ ไปแล้ว ไม่รับ ไม่ส่ง ไปตีรถเปล่า กลับรถตรงโรงพยาบาลมหาชัย ต้องมาคิดเรื่องกิโลเมตรที่สูญเปล่าด้วย

“วันหนึ่งไป-กลับ รวมตีรถออกรอบแรก-ส่งไปเติมก๊าซที่อู่แสมดำ รถเลิกเอารถไปเก็บ วันๆ หนึ่งตีรถเปล่า 30-40 กิโลเมตรได้ ซึ่งถ้าวิธีแก้ก็ต้องตัดเสริมทั้งรถเช้าและบ่าย แต่จะทำให้ต้นทาง-ปลายทางรถรอนานขึ้น” คอมเมนต์หนึ่ง ระบุ

ปัจจุบัน รถประจำทางสาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน ที่ ขสมก. เดินรถเอง มีรถโดยสารให้บริการรวม 34 คัน เป็นรถปรับอากาศเอ็นจีวีรุ่นใหม่ (สีฟ้า) 20 คัน นอกนั้นเป็นรถยูโรทู ฮีโน่ เอ็นจีวี และรถร้อนครีม-แดง

อย่างไรก็ตาม ตามแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถใหม่ ปี 2564 ขสมก. มีแผนที่จะเดินรถเข้าไปในจังหวัดสมุทรสาคร 2 เส้นทาง ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็น ขสมก. เดินรถมากขึ้นกว่าเป็นที่อยู่ก็ได้.

-กิตตินันท์ นาคทอง-

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *