เปิดบัญชีทรัพย์สิน “สุนทร-วิชาญ-สุวิศว์” หลังพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.

1216-1

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สาครออนไลน์ขอนำเสนอเฉพาะอดีต ส.ว. ที่มาจากชาวสมุทรสาครมาให้พิจารณา

เริ่มจาก นายสุนทร วัฒนาพร อดีต ส.ว.สมุทรสาคร ที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้เพียง 23 วัน ก็ถูก คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ก่อนดำรงตำแหน่งมีทรัพย์สิน 87,000,430.13 บาท ไม่มีคู่สมรส ไม่มีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่มีหนี้สิน หลังดำรงตำแหน่งมีทรัพย์สิน 98,538,747.42 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 11,538,317.59 บาท

เมื่อตรวจสอบรายการทรัพย์สิน พบว่าหลังดำรงตำแหน่งนายสุนทรมีทรัพย์สินเพิ่มเงินในรายงารเงินสด 400,000 บาท จากที่ก่อนดำรงตำแหน่งไม่มีรายการ ส่วนเงินฝาก 14,893,931.06 บาท จากที่ก่อนดำรงตำแหน่ง 3,830,685.46 บาท หรือเท่ากับมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 11,063,245.60 บาท ส่วนตัวเลขอื่นๆ อาทิ เงินลงทุน เงินให้กู้ยืม ที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ สิทธิและสัมปทาน ไม่แตกต่างกันมากนัก

ส่วนทรัพย์สินอื่น ก่อนดำรงตำแหน่งมีมูลค่า 6,877,000 บาท หลังดำรงตำแหน่งมีมูลค่า 6,974,000 บาท เท่ากับมีทรัพย์สินอื่นเพิ่มขึ้น 97,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ระหว่างที่นายสุนทรดำรงตำแหน่งมีทรัพย์สินเป็นเหรียญหลวงพ่อรุ่ง รุ่นพัดยศ มูลค่า 68,000 บาท และพระกริ่งทีอ๋อง (พระกริ่งจีน) มูลค่า 29,000 บาท ซึ่งในแวดวงสังคมไฮโซชาวสมุทรสาครเป็นที่ทราบกันดีว่านายสุนทรเป็นนักสะสมพระเครื่อง

ขณะที่ นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ อดีต ส.ว.สรรหา ในเว็บไซต์ ป.ป.ช. ยังไม่มีการอัพโหลดข้อมูล แต่รายงานข่าวแจ้งว่า นายวิชาญ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 589,858,760 บาท มีหนี้สิน 65,043,105 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 524,815,655 บาท เมื่อเทียบข้อมูลกับบัญชีทรัพย์สินหลังพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.สรรหา (สมัยแรก ปี 2551) ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 นายวิชาญ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 589,949,793.38 บาท มีหนี้สิน 113,645,348.21 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 476,304,445.17 บาท

อย่างไรก็ตาม นายวิชาญเป็นหนึ่งใน 27 อดีต ส.ว. สรรหาที่มีทรัพย์สินในหลักร้อยล้านขึ้นไป แต่ผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดคือ นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ ซึ่งมีธุรกิจในเครือโรงแรมปาร์คนายเลิศ พบว่า มีทรัพย์สินถึง 1,317,690,001 บาท มีหนี้สิน 2,249,972 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,315,440,028 บาท รองลงมาคือ น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ มีทรัพย์สิน 1,009,984,188 บาท มีหนี้สิน 16,124,765 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 993,856,423 บาท

สำหรับ นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล อดีต ส.ว.สมุทรสาคร ที่พ้นจากตำแหน่งหลังหมดวาระเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 พบว่ามีทรัพย์สิน 560,207,913.28 บาท ไม่มีคู่สมรส ไม่มีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่มีหนี้สิน เทียบข้อมูลกับบัญชีทรัพย์สินก่อนดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 มีทรัพย์สิน 558,372,469.77 บาท เท่ากับตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,835,443.51 บาท

เป็นที่น่าสังเกตว่า รายการทรัพย์สินหลังพ้นจากตำแหน่งมีเงินฝาก 5,627,158.28 บาท เทียบกับก่อนดำรงตำแหน่ง 2,671,714.77 บาท เท่ากับมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 2,955,443.51 บาท โดยพบว่ามีการปิดบัญชีเงินฝากลดลงจาก 8 บัญชีเหลือ 6 บัญชี โดยฝากผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภามากที่สุด 3,295,011.70 บาท รองลงมาคือธนาคารธนชาต สาขาอ้อมน้อย หลังควบรวมกิจการกับธนาคารนครหลวงไทย นายสุวืศว์ใช้บัญชีออมทรัพย์อย่างเดียว มีเงินฝากอยู่ 2,023,559.12 บาท

ส่วนรายการยานพาหนะ พบว่าก่อนดำรงตำแหน่งมียานพาหนะอยู่ 4 คัน มูลค่า 1,280,000 บาท ได้แก่ รถยนต์โตโยต้า พราโด้ ซื้อมาเมื่อปี 2543, รถยนต์นิสสัน ซื้อมาเมื่อปี 2538, รถยนต์อีซูซุ และรถยนต์ซูซูกิ รุ่น SJ 413 W ซื้อมาเมื่อปี 2532 แต่หลังพ้นจากตำแหน่ง รถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินของนายสุวิศว์ กลับเหลือเพียงแค่รถยนต์รถยนต์อีซูซุ และรถยนต์ซูซูกิ มูลค่ารวมกัน 180,000 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังพ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของทั้ง 3 คน พวกเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในสภาพคนตกงานเช่นเดียวกับนักการเมืองทั่วไป ซึ่งไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ เนื่องจากอดีต ส.ว. ทั้ง 3 คน ต่างก็เป็นเจ้าของธุรกิจอยู่แล้ว มีทรัพย์สินหลักสิบล้านถึงหลักร้อยล้าน และเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมของชาวสมุทรสาครอย่างกว้างขวาง

โดยก่อนดำรงตำแหน่ง นายสุนทร เป็นประธานกรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง จำกัด ขณะที่นายวิชาญ เป็นเจ้าของโรงเรียนสมฤดีสมุทรสาคร และธุรกิจการประมง ส่วนนายสุวิศว์ เป็นประธานที่ปรึกษา บริษัท เหล็กทรัพย์กรุ๊ป จำกัด บุตรชายอย่างนายภคิน เมฆเสรีกุล ตั้งบริษัท เอ็ม เมททอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเหล็กรูปพรรณ มีโรงงานอยู่ที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

เพราะฉะนั้นรายการทรัพย์สินที่เผยแพร่ออกไปนั้น การันตีได้ในระดับหนึ่งว่า ไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ ถึงขนาดมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหลักหมื่นล้านบาทในระหว่างดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างแน่นอน

กิตตินันท์ นาคทอง



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง