ทันทีที่เราลงจากรถประจำทางสาย 189 จากกรุงเทพมหานคร บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้าค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในยามค่ำคืน ประมาณเกือบ 5 ทุ่ม ดูเงียบเหงาลงถนัดตา ราวกับเป็นเมืองร้าง หรือพื้นที่ชนบทต่างจังหวัด

นอกจากร้านขายอาหารตามสั่ง หรือแผงรถเข็นขายอาหารจะเปิดเหลืออยู่ไม่กี่ร้านแล้ว ยังพบว่าร้านคาราโอเกะที่เป็นเพิงไม้ชั้นเดียว ถูกปิดป้ายประกาศ “ให้เช่า” พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ด้านในเงียบสงัดเสมือนถูกปิดตาย ไร้สีสันใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น

ตามปกติแล้ว บริเวณหน้าค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จะมีร้านคาราโอเกะอย่างคึกคัก มีบรรดารถแท็กซี่จอดอยู่หลายคัน กลายเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของโชเฟอร์แท็กซี่ รวมทั้งยังมีลูกค้าทั้งจากค่ายทหาร และอพาร์ทเมนต์นับพันยูนิตฝั่งตรงข้าม

นอกจากนี้ จากการสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่ง ที่มักจะขับรถผ่านย่านนี้เป็นประจำ ก็เล่าว่า บริเวณใกล้กัน ว่ากันว่ามีบ่อนการพนันประเภทหนึ่ง ซึ่งโชเฟอร์แท็กซี่ที่มาจอดพักรถมักนิยมเสี่ยงโชคกันอีกด้วย แต่เมื่อทหารเข้าควบคุมอำนาจการปกครองและจัดระเบียบ ก็ถูกปิดไป

สอดคล้องกับที่มหาชัย มอเตอร์ไซค์รับจ้างบริเวณทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร บอกเล่าให้เราฟังว่า เดี๋ยวนี้ซ่องโสเภณีชื่อดัง เฉกเช่น ซอยกิโล 1 ซึ่งมีลูกค้าทั้งผู้ใช้แรงงาน ลูกเรือประมง รวมทั้งผู้คนต่างถิ่นมาใช้บริการ เดี๋ยวนี้แทบไม่มีคนแล้ว

ผลกระทบไม่ใช่เพียงแค่สถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย แม้แต่สถานบันเทิงที่ทางราชการออกใบอนุญาต อย่างเช่น ผับ บาร์ หรือร้านอาหาร ก็เข้มงวดเช่นกัน หลังเวลา 02.00 น. ทางร้านอาหารมักจะคอยเคลียร์ลูกค้า พนักงานเสิร์ฟให้เหตุผลว่า จะมีทหารมาตรวจสถานบันเทิง

การจัดระเบียบสถานบันเทิง เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความสงบเรียบร้อยของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากเข้าควบคุมอำนาจการปกครอง และประกาศใช้กฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา

แม้ว่าการประกาศกฎอัยการศึกจะยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 โดยให้อำนาจ “เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย” ได้แก่ ทหารที่มียศตั้งแต่ร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรีขึ้นไป (ชั้นสัญญาบัตร) ที่ได้รับการแต่งตั้ง

และให้มีผู้ช่วยพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยคือทหารที่มียศต่ำกว่าเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจตามกฎหมาย รวมทั้งเป็นพนักงานสอบสวนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา

แม้ว่าการจัดระเบียบสถานบันเทิงจะได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนส่วนหนึ่ง แต่ประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มีนิสัยมือถือสากปากถือศีล ต้องการแสวงหาความสุขยามค่ำคืน เหมือนกับว่าพวกเขาคงมีเวลา และตัวเลือกสถานที่ในยามราตรีเพื่อหาความสำราญไม่นานนัก

ไม่นับรวมอาชีพ “คนกลางคืน” ไล่ตั้งแต่เจ้าของร้านอาหารที่ลงทุนนับแสน นับล้านบาท พนักงานเสิร์ฟอาหาร พนักงานต้อนรับ พ่อครัว รวมไปถึงนักดนตรีกลางคืนที่มีรายได้ไม่แน่นอน เมื่อลูกค้าลดลง รายได้ลดลง ที่สุดก็ต้องลดคน ร้ายแรงที่สุดถึงขั้นปิดกิจการ

สิ่งที่จัดระเบียบไปแล้วในวันนี้ ไม่รู้ว่าจะสงบเงียบในระยะยาว หรือสุดท้ายหลังหมดยุครัฐบาล คสช. เรื่องของอบายมุขเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้ง คงต้องให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์.

– กิตตินันท์ นาคทอง –