“บ้านพุน้ำร้อน” ประตูออกสู่ทวาย ในวันที่ยังไม่รู้อนาคต

2697-1

บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี ตรงข้ามกับด่านทิกิ เมืองทวาย รัฐตะนาวศรี สหภาพพม่า (เมียนมา) ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 70 กิโลเมตร และกรุงเทพฯ เกือบ 200 กิโลเมตร

ครั้งหนึ่งเคยถูกจับตามองว่าจะเป็นประตูเศรษฐกิจน้องใหม่ จากโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย แต่บริษัท อิตาเลียนไทยได้ชะลอก่อสร้างและขนคนงานกลับในปี 2556 หลังท่าทีรัฐบาลพม่าเปลี่ยน

กระทั่งมาถึงรัฐบาลใหม่ของพม่า ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงที่จะเดินหน้าโครงการระยะต่อไป

ขณะที่บริษัท อิตาเลียนไทย ในฐานะเจ้าของสัมปทานโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย เฟสที่ 1 พื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตร ก็เตรียมที่จะยื่นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อคณะกรรมการชุดใหม่

เช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมจากชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ระยะทาง 132 กิโลเมตร โดยประเทศไทยปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า 4,500 ล้านบาท

ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นได้เมื่อใด แม้ท่าทีของรัฐบาลทั้งสองประเทศจะสนับสนุนโครงการก็ตาม

ขณะที่การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) บางใหญ่ – กาญจนบุรี 96 กิโลเมตร และ กาญจนบุรี – บ้านพุน้ำร้อน 82 กิโลเมตร

ในส่วนของมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี งบประมาณ 55,620 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมพิจารณา

ก่อนหน้านี้ได้มีการเวนคืนที่ดินไปแล้วส่วนหนึ่ง รวมทั้งเปิดประมูลไปแล้ว 9 สัญญา จากทั้งหมด 25 สัญญา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 แล้วเสร็จในปี 2562

โดยรัฐบาลจะเปิดให้เอกชนร่วมทุน PPP Fast Track งานระบบเก็บเงินและซ่อมบำรุงรักษา (O&M) และจุดที่พักรถ (Rest Area) อีกด้วย

ขณะที่มอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน ได้กำหนดก่อสร้างในเส้นทางเลือกที่ 4 บริเวณด้านทิศใต้ของตัวเมืองกาญจนบุรี เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่กำหนดว่าจะก่อสร้างเมื่อไหร่

อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังบ้านพุน้ำร้อน พบว่าราคาที่ดินสูงขึ้น พื้นที่เกษตรกรรมส่วนหนึ่งถูกเปลี่ยนมือเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงานน้ำตาล

2697-2

“สาครออนไลน์” ได้ลงพื้นที่สำรวจที่ทำการจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน พบว่าบรรยากาศไม่คึกคักมากนัก พอตกเย็นร้านค้าต่างๆ ก็ปิดแล้ว

แต่ยังมีที่ท่องเที่ยวคือวัดพุน้ำร้อนรัตนคีรี ที่มีการจำลองเจดีย์แบบพม่าให้เยี่ยมชม

ขณะที่รถประจำทางจากสมุทรสาคร มายังบ้านพุน้ำร้อน มีให้บริการวันละ 4 เที่ยว คือ 5.00, 6.00, 14.30 และ 16.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 10 นาที

นอกจากนี้ ยังมีรถตู้ไปยังตัวเมืองกาญจนบุรี ออกจากบ้านพุน้ำร้อนวันละ 4 เที่ยว คือ 06.00, 07.20, 11.00 และ 14.00 น.

2697-3

สำหรับคนไทยที่สนใจไปเที่ยวทวาย แม้รถยนต์ไทยจะเข้าพม่าไม่ได้ แต่ที่บริเวณด่านบ้านพุน้ำร้อนมีรถตู้ทะเบียนพม่าไปยังทวายให้บริการ

สนนราคาเที่ยวเดียว 800 บาท ไป-กลับ 1,600 บาท หรือจะเช่าเหมารถเริ่มต้นที่ 5,000 บาทต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาพำนักที่ทวาย นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจทัวร์ เริ่มต้นที่ 3 วัน 2 คืน 8,900 บาท

โดยการผ่านแดนจากไทยไปยังทวาย ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง ใช้เพียงแค่หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ยื่นคำขอใช้บัตรประชาชนใบเดียว พร้อมค่าธรรมเนียมเล็กน้อย สามารถพำนักในพม่าได้ 7 วัน

แม้ว่าความเจริญในอนาคตจะยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้เมื่อใด แต่ในด้านการท่องเที่ยว ทวายก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจแก่นักเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

กระทั่งเคยมีความเชื่อกันว่า ต้องไปทวายสักครั้งในชีวิต ก่อนที่ทวายจะเปลี่ยนไป.

2697-4

วัดพุน้ำร้อนรัตนคีรี

– กิตตินันท์ นาคทอง –

หมายเหตุ : ขอขอบคุณ คุณสิริกร ลิ้มสุวรรณ เอื้อเฟื้อยานพาหนะในการเดินทาง



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง