เปิดขุมทรัพย์ 2 ตระกูลดัง“ทับสุวรรณ vs ไกรวัตนุสสรณ์”กลางคาวเลือด“อุดร”นายก อบจ.สมุทรสาคร

สำนักข่าวอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยรายงานพิเศษ พลิกขุมทรัพย์ 2 ตระกูลดัง “ทับสุวรรณ-ไกรวัตนุสสรณ์” กลางคาวเลือด “อุดร”นายก อบจ.สมุทรสาคร ลูกชายคนโต “เฮียม้อ” เพื่อไทย ก่อนหมายจับนักการเมืองทายาทอดีต รมช.คมนาคม แห่งพรรคประชาธิปัตย์

ไม่ว่าชนวนสังหาร นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 มาจากปมความขัดแย้งเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัว

ไม่ว่า นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ บุตรชาย นายเอนก ทับสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหาหรือไม่

หากพลิกขุมทรัพย์ 2 ตระกูลดังที่เสมือนผูกขาดสนามการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติมายาวนานพบข้อมูลดังนี้

นายอุดร เป็นบุตรชายคนโต นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นักการเมืองรุ่นเก๋า อดีตส.ส.สมุทรหลายสมัย

นายมณฑล เกิดวันที่ 2 เมษายน 2482 พ่อชื่อ นายกุ้ยใช้ แซ่โง้ว แม่ชื่อ นางกุ้ยลั้ง แซ่โง้ว มีพี่น้อง 10 คน ชื่อ นายเกรียงไกร ไกรวัตนุสสรณ์ (เสียชีวิต) นายกฤษณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวภรณี ไกรวัตนุสสรณ์ (เสียชีวิต) นางสาวนิด ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวแข ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวกัญญามาศ ไกรวัตนุสสรณ์ นางสมศรี วัฒนไพศาล นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ดร.สุปราณี ไกรวัตนุสสรณ์ และ นายกิตติ ไกรวัตนุสสรณ์

คู่สมรสชื่อ นางพรใจ ไกรวัตนุสสรณ์ พ่อชื่อ นายเล้ง แม่ชื่อ นางลั้ง มีลูก 5 คนชื่อ นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวอุไร ไกรวัตนุสสรณ์ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ร.ต.อ.หญิงสมพร ไกรวัตนุสสรณ์ และ นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์

จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันตระกูลไกรวัตนุสสรณ์ เป็นเจ้าของธุรกิจประมง ชื่อ บริษัท มณฑลชัยห้องเย็น จำกัด ก่อตั้งวันที่ 12 มีนาคม 2523 ทุน 10 ล้านบาท ที่ตั้ง เลขที่ 1094/3 ถนนวิเชียรโชฎก ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 นายกิตติ ไกรวัตนุสสรณ์ นางเง็กย้ง ไกรวัตนุสสณ์ คนละ 2,500 หุ้น หรือ 25% นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ นายเกรียงไกร ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวแข ไกรวัตนุสสรณ์ นางสาวสมศรี ไกรวัตนุสสรณ์ และ นายจีนอ้อ ไชยเจริญ คนละ 1,000 หุ้น หรือ 10% ผลประกอบการปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้ 21,726,702 บาท กำไรสุทธิ 219,584 บาท

ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 นายมณฑลแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า มีทรัพย์สิน 181,835,564.97 บาท แบ่งเป็นที่ดิน 86 แปลง มูลค่า 158,720,378 บาท เงินสด 1,000,000 บาท เงินฝาก 18,910,186.97 บาท เงินลงทุน (บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด หรือโรงพยาบาลพญาไท 82,500 หุ้น) 825,000 บาท เงินให้กู้ยืม 1,500,000 บาท

บ้าน 2 หลัง เลขที่ 173 ถ.ถวาย ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ ทาวน์เฮ้าส์ เลขที่ 237/288 ถ.เอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รวม 700,000 บาท ทรัพย์สินอื่น สร้อยคอทองคำหนัก 12 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 10 องค์ มูลค่า 180,000 บาท

คู่สมรส มีทรัพย์สิน 21.9 ล้านบาท เป็นเงินสด 500,000บาท เงินฝาก 5,865,067.94 บาท ที่ดิน 9 แปลง 9,339,150 บาท อาคารพาณิชย์ เลขที่ 927/447 ถ.เศรษฐกิจ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จำนวน 1 คูหา และ เลขที่ 926 /179 ถ.ธนบุรี-ปากท่อ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จำนวน 3 คูหา รวม 4,500,000 บาท เรือยนต์ 1 ลำ ราคา 200,000 บาท

ทรัพย์สินอื่น อาทิ ทองคำแท่งหนัก 30 บาท เข็มขัดทองคำหนัก 20 บาท สร้อยคำทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 5 บาท กำไลข้อมือทองคำ แหวนเพชร สร้อยมูก ต่างหู มูลค่า 1,513,000 บาท

รวม 2 คน 203,752,782.91 บาท ไม่มีหนี้สิน

ที่ดิน 86 แปลงของนายมณฑล อยู่ในจ.สมุทรสาคร 29 แปลง แบ่งเป็น อ.เมือง 15 แปลง กับ อ.กระทุ่มแบน 14 แปลง ,อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 19 แปลง , อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี 9 แปลง , อ.นายาง กับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 17 แปลง ,อ.เมือง จ.ชุมพร 6 แปลง ,อ.เมือง จ.พะเยา 4 แปลง และ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฏร์ธานี 2 แปลง

ที่ดิน 9 แปลง ของนางพรใจ อยู่ใน อ.เมือง สมุทรสาคร 7 แปลง และ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 2 แปลง

รวม 95 แปลง เนื้อที่ 755 ไร่เศษ

นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ตอนเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 9 พฤศจิกายน 2540 มีทรัพย์สิน 40,318,621.18 บาท เป็นที่ดิน 40,000,000 บาท เงินสด 100,000 บาท เงินฝาก 68,621.18 บาท รถยนต์ 150,000 บาท หนี้สิน 409,678.58 บาท

เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 39,908,942.60 บาท

ขณะที่ นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ เป็นลูกของ นายเอนก ทับสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พรรคประชาธิปัตย์

ข้อมูลจากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ครั้ง นายครรชิตมีทรัพย์สินไม่กี่ล้านบาท

ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 นายครรชิตยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่ามีทรัพย์สิน เพียง 697,237.26 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 3,237.26 บาท รถยนต์ 1 คัน 400,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 294,000 บาท ได้แก่ ปืน 1 กระบอก นาฬิกา 4 เรือน หนี้สิน 135,757.51 บาท

เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 561,479.75 บาท

ตอนพ้นตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ระบุมีทรัพย์สิน 4,546,674.97 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 133,674.97 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (คอนโดมีเนียม ถนนจรัญสนิทวงศ์ บางพลัด ) 1,500,000 บาท รถยนต์ 2 คัน 2,599,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ปืน 4 กระบอก) 314,000 บาท หนี้สิน เงินเบิกเกินบัญชี 86,703.78 บาท เงินกู้ 1,327,129.38 บาท หนี้สินอื่นลิสซิ่ง 1,025,168 บาท รวมหนี้สิน 2,439,001.16 บาท

เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,107,673.81 บาท

ล่าสุดตอนรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ระบุมีทรัพย์สิน 4,568,692.22 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 305,792.22 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (คอนโดมีเนียม ถนนจรัญสนิทวงศ์ บางพลัด ) 1,500,000 บาท รถยนต์ 2 คัน 2,520,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ปืน 4 กระบอก) 242,900 บาท หนี้สิน 2,444,413.10 บาท (เงินเบิกเกินบัญชีและหนี้ไฟแนนซ์)

เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,124,279.12 บาท

หากเปรียบเทียบการยื่นบัญชีฯครั้งแรกและครั้งล่าสุด นายครรชิตมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ประมาณ 1,562,800 บาท

น่าสังเกตว่า การยื่นบัญชีฯทั้ง 3 ครั้งไม่ได้ระบุว่ามีเงินลงทุนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายเอนก ทับสุวรรณ เป็นแม่ทัพใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน กระทั่งนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ หรือเฮียม้อ นักธุรกิจประมงชื่อดังของสมุทรสาคร ขึ้นมาทาบรัศมีเมื่อลงมาเล่นการเมืองเองสังกัดพรรคความหวังใหม่ในยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค นับจากนั้นเป็นต้นมา 2 ขั้วการเมืองนี้ต่างแข่งขันแย่งชิงที่นั่งในพื้นที่มาตลอด โดยตระกูลทับสุวรรณเพลี่ยงพล้ำเสียที่นั่งหลายครั้ง กระทั่งนายเอนกและเฮียม้อวางมือ มาถึงรุ่นลูกก็ยังคงขับเคี่ยวต่อสู้กันในสนามเลือกตั้ง

กระทั่งเป็นความขัดแย้งรุนแรงจนนำมาสู่ข้อกล่าวหาสังหารนายอุดร และ ออกหมายจับ ครรชิต ทับสุวรรณ ในที่สุด



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง