เป็นที่กล่าวขานกันว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และสมาชิกสภาเทศบาลฯ เที่ยวนี้เป็นการประชันกันระหว่าง “กลุ่มพัฒนานคร” นำโดยนายกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาครคนล่าสุด ที่ประกาศจะลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอีกสมัย กับ “กลุ่มฅนรักถิ่น” ที่นำโดยนายสุภาพ แซ่เฮ้ง หรือเฮียเส่ย อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ซึ่งรับไม้ต่อจากนายประวิทย์ มณีโรจน์ หรือเฮียอุ๊ย แกนนำกลุ่มฅนรักถิ่น และอดีตนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร 2 สมัย ซึ่งปัจจุบันคาดว่าจะวางมือทางการเมืองไปแล้ว

กลุ่มพัฒนานคร นำโดยนายกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาครคนล่าสุด การลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีสมัยหน้าที่กำลังจะมาถึง คาดว่าน่าจะวางตัวทีมงานที่จะเป็นรองนายกเทศมนตรีไว้เหมือนเดิม คือ นายทองแทน เลิศลัทธภรณ์, นายภัคพล ทัศนนิพันธ์ หรือเฮียเอ็กซ์ ส่วนตระกูลวัฒนพรมงคลมีบางกระแสระบุว่า อาจจะให้นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล เจ้าของปั้มน้ำมันเอสโซ่วัฒนาลงสมัครเหมือนเดิม

แต่อีกด้านหนึ่ง บางกระแสระบุว่านายชวพล วัฒนพรมงคล หรือ เส่ง บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนายสมชาย วัฒนพรมงคล หรือเฮียย้ง อาจจะกลับมาลงสมัครรองนายกเทศมนตรี ทีมเดียวกับนายกุลวัชร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อกลับไปดูแลกิจการสินเชื่อเบสท์บาย อย่างไรก็ตาม นายกุลวัชร ยังคงให้นายชวพลทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

สำหรับการเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ นายกุลวัชรหันมาใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เฉกเช่นเฟซบุ้ค “กลุ่มพัฒนานคร” เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ผลงาน โดยยังคงให้นายชวพลซึ่งมีประสบการณ์ด้านการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ดูแลหน้าเฟซบุ้ค ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จจากเฟซบุ้คเครือข่ายเฝ้าระวังน้ำท่วมสมุทรสาคร ขณะที่ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายกุลวัชรได้นำสมาชิกลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องก่อนจะหมดวาระ

ส่วนกลุ่มฅนรักถิ่น เปิดตัวด้วยสโลแกน “ผมไม่เคยทิ้งใคร” นำโดยนายสุภาพ แซ่เฮ้ง หรือเฮียเส่ย, นายชุมพล จันทร์จรัสพัฒนา หรือเฮียตู่, นายชวลิต ลิ้มธนสาร หรือเฮียซุง อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร รวมทั้งนายศักดิ์ชัย นิมิตรปัญญา หรือเฮียโหงว อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเขตที่ 1 (โกรกกราก, วัดตึกมหาชยาราม, วัดเจษฎาราม, คลองกระโจน) และนายสาคร อิ่มพรรณไชย หรือเฮียต้อย อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเขตที่ 4 (ท่าฉลอม, โรงไฟฟ้า, คลองบางหญ้า)

การตรียมความพร้อมของทีมฅนรักถิ่น พบว่าได้ทุ่มเงินซื้อโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกอย่างมหาชัยเคเบิ้ลทีวี แม้จะไม่รู้ว่าเป็นเพราะนายชวลิตเป็นญาติกับนายวีระพงษ์ ลิ้มธนสาร ผู้อำนวยการบริษัท มหาชัยเคเบิ้ลทีวี จำกัดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เวลาสมาชิกรับชมข่าวท้องถิ่นช่อง 1 และช่อง 2 มักจะเห็นโฆษณาทีมฅนรักถิ่นที่มีน้ำเสียงของนายสุภาพออกอากาศเป็นประจำทุกวันอยู่บ่อยครั้ง

ที่ผ่านมา นายสุภาพกับนายชวลิตเคยเป็นเทศมนตรีร่วมกับนายประวิทย์ มณีโรจน์ หรือเฮียอุ๊ย สมัยที่นายสุชาติ ใบสมุทร เป็นนายกเทศมนตรีเมื่อปี 2543 หลังยกฐานะจากเทศบาลเมืองเป็นเทศบาลนครสมุทรสาคร ซึ่งที่ผ่านมานายสุชาติเป็นนายกเทศมนตรีรวมกัน 6 สมัย ก่อนจะส่งไม้ต่อให้นายประวิทย์ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมื่อปี 2545 ขณะนั้นนายสุชาติมีอายุ 80 ปี

นายประวิทย์ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2545 และปี 2547 โดยมีนายชวลิต นายสุภาพ และนายชุมพลติดสอยห้อยตามเป็นเทศมนตรี กับนายไตรพล ตั้งมั่นคง รวมทั้งนายภัคพล ที่ภายหลังได้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมื่อปี 2549 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อีกขั้วหนึ่ง ภายหลังนายสุชาติได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราและมะเร็งปอดเมื่อเดือนเมษายน 2551 เหลือไว้เพียงตำนานนายกเล็กหลายสมัยกว่า 30 ปี และเป็นอดีตนายกสมาคมเทศบาลแห่งประเทศไทยคนแรก

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาครเมื่อปี 2551 นายประวิทย์ต้องเจอกับนายกุลวัชร (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่าสุนทร) หงษ์คู สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเจ้าของธุรกิจประมง ลงสมัครในนามกลุ่มสาครร่วมใจพัฒนา โดยมีนายทองแทน เลิศลัทธภรณ์ อดีตนายกสมาคมประมงสมุทรสาคร เป็นผู้ชิงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี

ที่ผ่านมานายทองแทนเคยลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมื่อปี 2547 ด้วยสโลแกน “ถึงเวลาทองต้องมาแทน” แต่สอบตก รวมทั้งนายภัคพลที่ผันตัวจากกลุ่มฅนรักถิ่น มาอยู่กลุ่มสาครรวมใจพัฒนา และนายชวพล ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะลาออกมา โดยนายกุลวัชรถูกจับตามองว่าเป็นกระดูกคนละเบอร์ เพราะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ขณะที่นายประวิทย์มีชั่วโมงบินมาแล้ว 2 สมัย

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2551 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าเกิดปรากฏการณ์ “หักปากกาเซียน” เพราะผู้สมัครหน้าใหม่อย่างนายกุลวัชร ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 10,529 คะแนน ขณะที่นายประวิทย์ได้คะแนนเพียง 8,911 คะแนนเท่านั้น ถึงกระนั้น สมาชิกสภาเทศบาลในนามกลุ่มฅนรักถิ่นยังคงเป็นขวัญใจของชาวบ้านอยู่ จึงได้รับเลือกเข้ามาถึง 19 คน โดยกลุ่มสาครร่วมใจพัฒนาแทรกเข้ามาได้ 5 คนเท่านั้น

จากการที่สื่อมวลชนช่วงเวลานั้นได้สอบถามประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร ก็พบว่าส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ จึงได้เลือกกลุ่มสาครร่วมใจพัฒนา เพราะที่ผ่านการบริหารงานของกลุ่มฅนรักถิ่นนั้นมีปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งจากการที่นายกุลวัชรเข้ามาบริหารงานในเทศบาลก็พบกับความเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะการปรับภูมิทัศน์ถนนเศรษฐกิจ รวมทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วมในช่วงน้ำทะเลหนุน และในช่วงวิกฤตอุทกภัยปี 2554 ซึ่งมีเสียงชื่นชมจำนวนมากว่าแก้ไขปัญหาได้ทันสถานการณ์

แม้จุดแข็งของนายกุลวัชรจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวมหาชัย แต่จุดอ่อนในสมัยที่แล้วอยู่ที่สมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มพัฒนานครพยายามนำบุคคลในตระกูลซึ่งเป็นที่รู้จักในเขตเทศบาลเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มพัฒนานครเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้แก่ นายภมร เชาวน์แหลม อดีตอาจารย์ชื่อดังลงสมัครในเขต 2 (ตลาดมหาชัย, สามร้อยห้อง, เดิมบาง, ณรงค์มิตร) หรือจะเป็นนายณรงค์ ศิลาสุวรรณ ผู้ประนีประนอมศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลงสมัครในเขต 3 ซึ่งนามสกุล “ศิลาสุวรรณ” นี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวท่าฉลอม

เป็นที่น่าสังเกตว่า สมาชิกสภาเทศบาลในสายของกลุ่มพัฒนานครนั้น มีจุดแข็งอยู่ที่เขต 3 (วัดป้อมวิเชียรโชติการาม, สะพานปลา, ถนนเศรษฐกิจ, เทศบาล 8, ค่ายลูกเสือ) ซึ่งมีผู้สมัครที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาครสมัยล่าสุดมาแล้ว 4 คน ได้แก่ นายสมเกียรติ ปิ่นเจริญ, นายสมศักดิ์ วิถีคลองคืน, นายชัยวิน ลือประเสริฐ และนายเจือ อยู่ประจำ อย่างไรก็ตามกลับพบว่าเขตเลือกตั้งที่ 1 กลับมีนายมนัส โรจน์ไพรินทร์ ผู้สมัครเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลก่อนหน้านี้

ส่วนกลุ่มฅนรักถิ่น แม้อาจกล่าวได้ว่ามีจุดแข็งอยู่ที่สมาชิกสภาเทศบาลซึ่งมีเสียงข้างมาก แต่จุดอ่อนตรงที่ตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญ หากนำนายสุภาพเทียบกับนายกุลวัชรที่มีผลงานและการปรากฏตัวออกสื่อในประเด็นระดับประเทศ เช่น วิกฤตน้ำท่วมนั้นย่อมเป็นที่รู้จักกันมากกว่า ส่วนนายสุภาพทำได้เพียงแค่แรงเสริม เช่น แจกกระสอบทรายเท่านั้น ไม่นับทัศนคติของคนในตลาดมหาชัยที่รู้จักเฮียเส่ยเป็นอย่างดี หากเทียบกับนายประวิทย์ หรือเฮียอุ๊ย แกนนำกลุ่มฅนรักถิ่นก่อนหน้านี้ อย่างหลังก็น่าจะมีบารมีทางการเมืองมากกว่า

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาครจะเริ่มต้นขึ้น หลังคณะผู้บริหารชุดเดิมครบวาระเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน นายมนัสพงศ์ พรหมพิสิฐพงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้ประกาศวันเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาคร เป็นวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.2555 โดยจะเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งะหว่างวันที่ 19-23 มีนาคมนี้ ณ ห้องประชุมเทศบาลนครสมุทรสาคร

ประชาชนในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร ซึ่งจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยประมาณมีอยู่ประมาณ 3-4 หมื่นคนจะกำหนดอนาคตบ้านเมือง ที่เป็นหน้าด่านของจังหวัดสมุทรสาครได้อย่างไร หลังเทศกาลสงกรานต์ 22 เม.ย.นี้หลังปิดหีบเลือกตั้งน่าจะรู้ว่าใครจะได้ไปต่อ หรือใครจะเข้ามาแทนที่ คงไม่นานเกินรอ.