วิกฤตจุดกลับรถพระราม 2 แสมดำ-วัดพันท้าย กลัดกระดุมผิดแต่เม็ดแรก

จุดกลับรถสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนพระราม 2 กม.18 ที่มีสภาพคับแคบ และมักจะเกิดปัญหาจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน (ภาพจาก Google Street View)

กรณีที่นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย เรียกร้องให้แขวงการทางสมุทรสาครเปิดจุดกลับรถเกาะกลางถนนพระราม 2 ก่อนถึงวัดพันท้ายนรสิงห์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ถึงขั้นประกาศว่าอีก 15 วัน หากยังไม่มีอะไรชัดเจน จะนำประชาชนบริเวณนั้นออกมาชุมนุมปิดถนนพระราม 2 สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการจราจรในย่านวัดพรหมรังสี แสมดำ ถึงหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ กำลังถึงขั้นเกินเยียวยา สวนทางกับความเจริญของย่านนี้ที่เติบโตมากขึ้น

ปัญหาของพื้นที่ย่านดังกล่าวไม่ใช่การจราจรติดขัด แต่เป็นเป็นเรื่องของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ต้องการกลับรถเพื่อไปยังกรุงเทพฯ เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากจุดกลับรถมีน้อยและไม่เพียงพอต่อการสัญจรของคนในพื้นที่ ภายหลังจากที่กรมทางหลวงขยายถนนพระราม 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ถึงนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร กม.34 จาก 4 ช่องจราจร เป็น 10 ช่องจราจร พร้อมสะพานกลับรถและขยายสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน เมื่อปี 2542

ปัญหาที่สำคัญคือ สะพานกลับรถบริเวณหน้าวัดพรหมรังษี ไม่ได้รองรับรถที่มาจากทางถนนแสมดำ บ่อยครั้งที่เมื่อออกถนนใหญ่จะต้องเลี้ยวซ้ายไปกลับรถที่สะพานข้ามทางรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ กม.18 ก่อนจะใช้เส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งหากคำนวณแล้วพบว่าจะต้องตรงไปอีก 4.3 กม. ถึงจะเข้าสู่จุดกลับรถใต้สะพาน และหลังจากวนรถแล้ว หากนับต่อไปถึงหน้าวัดพรหมรังษีจุดเดิม จะกินระยะทางรวมกันถึง 9.3 กม.

หนำซ้ำ กรณีรถที่ออกมาจากซอยวัดพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร และนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์สินสาคร ในชั่วโมงเร่งด่วนจะต้องแย่งกันกลับรถบริเวณใต้สะพานดังกล่าว ส่งผลให้รถที่เข้าช่องซ้ายเพื่อกลับรถติดขัดและต้องต่อคิว หรือหากมีแซงคิวก็จะเกิดปัญหากับผู้ใช้รถใช้ถนนอีก บางคนถึงกับยอมตรงไปเพื่อกลับรถที่สะพานกลับรถ กม.23 เลยชุมชนมหาชัยเมืองใหม่ ซึ่งจะกินระยะทางรวมกันมากกว่า 10-15 กม.ก่อนจะกลับรถสู่ขาเข้ากรุงเทพฯ

จุดกลับรถเกาะกลางถนนพระราม 2 ที่ถูกปิดหลังขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร (ภาพจาก Google Street View)

เดิมในช่วงที่ถนนพระราม 2 ยังเป็น 4 ช่องจราจร จุดกลับรถเกาะกลางถนนอยู่เลยปากทางถนนแสมดำมาเล็กน้อย อีกทั้งซอยวัดพันท้ายนรสิงห์ยังไม่มีความเจริญเข้ามาเหมือนวันนี้ แต่การสร้างสะพานกลับรถที่พบว่า ทิศทางไปกรุงเทพฯ อยู่ก่อนถึงวัดวัดพรหมรังษีประมาณ 200-300 เมตร เสมือนปิดตายถนนแสมดำไปโดยปริยาย รวมทั้งถนนพระราม 2 ซอย 100 ที่รองรับรถมาจากถนนเพชรเกษม มาทางถนนมาเจริญ และถนนบางบอน 5 อีกด้วย

รถจากขาเข้ากรุงเทพฯ หรือมาจากถนนพระราม 2 ซอย 100 หากจะเข้าสู่ถนนแสมดำต้องไปกลับรถไกลถึงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 4 กม. และหากนับต่อไปถึงหน้าวัดพรหมรังษีจุดเดิม จะกินระยะทางรวมกันถึง 9 กม. ไม่ต่างกับเมื่อตอนออกจากถนนแสมดำ

แม้ภายในถนนแสมดำเองจะมีซอยย่อยออกถนนบางกระดี่เพื่อใช้สะพานกลับรถมุ่งหน้าสู่ขาเข้ากรุงเทพฯ ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่สะดวกนักเพราะซอยแคบ ไม่นับรวมกรณีที่รถเล็กอย่างจักรยานยนต์ แม้แต่รถกระบะยังต้องย้อนศรผ่านปั้มน้ำมัน ปตท.พระราม 2 ขาออก หรือหากเป็นกรณีรถจักรยานยนต์ ก็ย้อนศรไปอีกสะพานหนึ่งเพื่อเข้าถนนพระราม 2 ซอย 100 ซึ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและการทำผิดกฎจราจรอย่างใหญ่หลวง

จุดกลับรถเกาะกลางถนน บริเวณระหว่างวัดพรหมรังษี กับวัดพันท้ายนรสิงห์นั้น แม้จะถูกปิดตายหลังการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจรแล้วเสร็จ แต่ครั้งหนึ่งแขวงการทางสมุทรสาครก็เคยเปิดใช้งาน มีการตีเส้นจราจร จำกัดเฉพาะรถยนต์สี่ล้อ และติดตั้งไฟกระพริบอย่างดี แต่ปรากฎว่ามีการตัดกระแสรถทางตรงขาเข้ากรุงเทพฯ จากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จนเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เปิดใช้งานอีกเลย

ก่อนหน้านี้แขวงการทางสมุทรสาครได้เสนอโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ที่ กม.17+600 ทิศทางไปกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 สะพาน งบประมาณ 120 ล้านบาท ต่อทางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอรับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดกาญจนบุรี แต่ปรากฎว่าถูกตีตกออกไป โดยจัดให้เป็นโครงการที่มีความสำคัญรองลงมา เพราะใช้งบประมาณจำนวนมาก

เท่ากับว่า การแก้ปัญหาจราจรในย่านนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนยังคงต้องทนรถติด หรือเลี่ยงไปจุดกลับรถจุดอื่นแบบตามมีตามเกิดกันต่อไป…



8 ความคิดเห็น เรื่อง “วิกฤตจุดกลับรถพระราม 2 แสมดำ-วัดพันท้าย กลัดกระดุมผิดแต่เม็ดแรก”

  1. สมพรพัชร กล่าวว่า:

    มิ.ย. 27, 12 at 9:16 am

    เห็นด้วยกับคุณพิพัฒน์ อย่างยิ่ง ชาวแสมดำ ลำบากมากในเรื่องการจราจรที่ติดขัด อย่างนี้ต้องปิดถนนประท้วง นัดเมื่อไรแจ้งด้วย ยินดี

  2. ผู้ใช้ถนน กล่าวว่า:

    ก.ค. 04, 12 at 9:45 am

    คนในซอยแสมดำไม่สามารถกลับรถสะพานกลับรถหน้าปากซอยได้ ไม่รู้ออกแบบอย่างไร
    ไม่เผื่อความเจริญที่จะเติบโตวันข้างหน้าเลย หรือกลัวจะไม่ได้งบประมาณมาแก้ไขใหม่ีอีก
    นี่แหละคนบริหารงบประมาณไทย จะได้กินน๊าน…นาน…..นาน…….นาน……นาน………………………

  3. dollaya กล่าวว่า:

    ก.ค. 07, 12 at 3:05 am

    ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งในการเรียกร้องในครั้งนี้ งบประมาณเพียงเท่านี้เทียบไม่ได้เลยกับอีกหลายชีวิตที่ต้องทนลำบากอยู่ทุก ๆ วัน ในการหาที่กลับรถ หรือแม้แต่ต้องยอมเสี่ยงย้อนศร ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง จริง ๆ ทุกคนไม่อยากทำผิดกฏจราจร แต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวย จะให้ทำเช่นไร บางคนต้องรีบไปทำงาน ต้องรีบไปเรียน หรือบางคนต้องรีบไปโรงพยาบาลเพราะอาการโคม่า ก็คงจะต้องสิ้นชีวิต เพราะที่กลับรถที่เป็นแบบนี้ละมั้ง งบประมาณที่มีในปัจจุบัน เอาไปทำอะไรที่มันไม่สำคัญเยอะเยอะ ลองไตร่ตรองดูนะค๊ะ แบ่งมาให้ประชาชนตาดำ ๆ ได้มีที่กลับรถที่สะดวกสบายบ้าง ก็คงเป็นอะไรที่ไม่มากเกินไป ไม่ต้องทำหรูหราใหญ่โตหรอก ขอแค่มีให้ก็พอใจแล้วค่ะ ดิฉันเองก้เป็นอีกคนนึงที่ทนลำบากมาหลายปี ตอนนี้มันก็เหลืออดเหมือนกัน ช่วยทำให้มันดีกว่าเดิมไม่ต้องดีมาก แต่ขอให้ดีขึ้นก็พอ

  4. It 9 กล่าวว่า:

    ก.ค. 24, 12 at 9:55 am

    ควรทำสพานกลับรถไปเลย ทำจุดกลับรถไม่ปลอดภัย แทนที่จะได้กลับรถ ก็ต้องกลับบ้านเก่า ต้องรอให้มีคนตายเป็น 100 ทรัพย์สินเสียหายถึง 120 ล้านก่อนใช่มั้ย. ถึงจะตัดสินใจทำสะพานกลับรถ ถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางหลักที่ลงใต้ รถใช้ความเร็วสูง ถ้ามีอุบัติเหตุครั้งนึงรถติดเป็น ชม ก็ไม่ไหว

  5. เจษฎา กล่าวว่า:

    ส.ค. 08, 12 at 8:04 am

    ควรฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคนออกแบบสะพานกลับรถอันเดิม ไม่รู้ใช้สมองส่วนไหนคิด ทำทางกลับรถก่อนถึง ถ.แสมดำ ไม่กี่เมตร ส่วนรถจากบางกระดี่ ต้องวิ่งเกือบถึงแสมดำ ค่าน้ำมันรถและค่าเสียเวลาตลอดหลายปีคงจะไม่น้อย ใช้สมองนิดเดียวประหยัดเป็นพันล้าน

    ถ้าเป็นคนออกแบบคนเดียวกับที่ หัวกระบือ ที่ทำให้ต้องสร้างสะพานข้ามพระราม 2 อยากจะตบรางวัลให้เป็นการส่วนตัว ช่วยติดต่อมาด้วย

  6. ปรีชา กล่าวว่า:

    ส.ค. 09, 12 at 12:41 pm

    พวกเราที่เดือดร้อนทุกคน เอาอย่างนี้ไม๊ครับ ถ้าพรรคการเมืองใหนสามารถผลักดันหรือสามารถแก้ใข้ปัญหานี้ให้เราได้ พวกเราจะเลือกตัวแทนของพรรคนั้นอย่างน้อยสองสมัยไม่ว่าจะเป็การเมืองระดับใด. ถ้าเห็นด้วยช่วยแสดงพลังให้เขาเห็นหน่อยดีไม๊ครับ

  7. เซ็ง กล่าวว่า:

    ส.ค. 29, 12 at 2:47 am

    หลายจุดกลับรถใน จ.สมุทรสาครมีปัญหานะ ไม่ใช่แค่จุดนี้
    เช่น 1. จุดกลับรถ หน้าวัดราษฏรังสรรค์ จุดกลับรถออยู่ติดกับแยก รถติดชั่วโมงเร่งด่วน ทำจุดกลับรถเลยแยกไปอีกซักนิด ก็จะลดปัญหานี้ได้

    2.จุดกลับรถ ก่อนถึงตลาดนัดโพธิ์แจ้ (แยกเข้าซอยบ่อดิน) รถติดมากชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้จุดกลับรถไกลออกไปซักนิด ก็จะลดปัญหานี้ได้เช่นกัน จุดกลับรถเส้นนี้ไกลมาก ไกลเกินไป รถมอร์ไซด์ปีนข้ามเกาะกลางเยอะมาก อันตราย

    ใครทราบช่วยตอบที “ผู้ออกแบบ” จบอะไรมาช่วบตอบที ไม่มองถึงอนาคตบ้างเหรอ (ประชาชนก็ต้องทนต่อไป กลับรถไกลแถม ต้องมาติดอีก) เอาเงินค่าน้ำมันรวมกันทุกคนต่อปี x ปลายปีที่ผ่านมา แก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้ 100 ปัญหานะครับ

  8. นิพนธ์ กล่าวว่า:

    พ.ค. 16, 14 at 1:19 pm

    คนที่สั่งไห้ทำที่กลับรถแบบนี้ คนที่เดือดร้อนเค้ามีเยอะนะครับ
    ทุกคนคงมีบัญชีชีวิต นั่นแหล่ะของคนที่เดือดร้อน
    ทุกคน ทุกวัน ทุกรุ่น ทุกสมัย ที่ลงบัญชีไว้


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง