3.84 ล้าน ล่องเรือประมงชมอ่าวมหาชัย

866

เมื่อไม่นานมานี้ จังหวัดสมุทรสาครได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการล่องเรือประมงชมอ่าวมหาชัย ที่บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับงบประมาณจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2555

ในวันดังกล่าวมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไพศาล สำราญทรัพย์ พร้อมด้วยเกษตรและสหกรณ์ จ.สมุทรสาคร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม เข้าร่วม

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ โดยกำหนดงบประมาณ 5 ล้านบาท ภายหลังได้รับงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี 2555 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

แบ่งออกเป็นการปรับปรุงเรือประมงเพื่อใช้สำหรับท่องเที่ยว 5 ลำ 2.91 ล้านบาท จัดทำจุดจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง 5 หมื่นบาท การจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ 1 แสนบาท การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อต่างๆ 5.6 แสนบาท การบริหารจัดการโครงการ 2 แสนบาท และการติดตามประเมินผล 2 หมื่นบาท

เบ็ดเสร็จรวมกันแล้ว 3.84 ล้านบาท!

866-2

จังหวัดสมุทรสาครเริ่มนำร่องโครงการล่องเรือประมงชมอ่าวมหาชัย เที่ยวชมสองฝั่งแม่น้ำท่าจีนในช่วงงานเทศกาลอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร 7-11 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา (ภาพ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร)

ว่ากันว่าค่าบริการในการล่องเรือครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือระยะสั้นคิดค่าบริการ 80 บาทต่อคนต่อเที่ยว โดยจะล่องเรือถึงปากอ่าวมหาชัย และระยะยาวคิดค่าบริการ 400 บาทต่อคนต่อเที่ยว ชมแปลงหองแมลงภู่ โป๊ะปลาทู และไหว้พระกลางน้ำที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ มีบริการอาหาร 1 มื้อ

ครั้งหนึ่งสาครออนไลน์เคยสอบถามผู้ที่ดูแลเรื่องการจัดเรือท่องเที่ยว ก็อธิบายอย่างคร่าวๆ ว่าการตกแต่งเรือประมงเก่าที่ปลดระวางเพื่อกลายสภาพเป็นเรือท่องเที่ยวนั้น ซึ่งโดยรวมใช้งบประมาณในการปรับปรุงเฉลี่ยตกลำละ 7 แสนบาท

ประกอบด้วยการทาสีเรือใหม่ทั้งลำ ทำหลังคา ทำห้องน้ำ ชั้นวางของ ที่นั่งไม้เป็นแถว ที่เก็บของ จุดทำครัวพร้อมอุปกรณ์เครื่องครัว เบ็ดตกปลา เสื้อชูชีพ ห่วงยาง และกล้องส่องทางไกลบริการนักท่องเที่ยวบนเรือ โดยเรือลำใหญ่บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 100 คน ส่วนลำเล็กบรรทุกได้ไม่เกิน 30 คน

รองผู้ว่าฯ ไพศาลให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาใช้บริการไม่น้อยกว่า 20,000 คนต่อปี สามารถนำรายได้เข้า จ.สมุทรสาคร ได้ถึงปีละไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ที่จะสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวประมงอย่างยั่งยืน

ในการจัดแถลงข่าววันนั้นเป็นที่น่ากังขาหลายอย่าง ประการแรก แม้การจัดงานจะมีการแถลงข่าวใหญ่โตโดยว่าจ้างออกาไนซ์เซอร์ มีการแสดงระบำฮาวาย แต่ไม่พบว่ามีเรือมาจอดให้เห็นเป็นตัวอย่าง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องบางคนอ้างว่าเรือยังไม่เสร็จ

สื่อมวลชนสำนักหนึ่งกล่าวกับ “สาครออนไลน์” ว่า งานแถลงข่าวครั้งนี้คิดว่าจะต้องมีเรือท่องเที่ยวมาแสดง ตนตั้งใจที่จะไปเก็บภาพบรรยากาศเพื่อที่จะนำเสนอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเอกสารในลักษณะข่าวแจกเพียงแผ่นเดียว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะเขียนเป็นเรื่องราวยังไง

ประการสำคัญ ผู้สื่อข่าวอาวุโสรายหนึ่งถึงกับถามในที่แถลงข่าวว่า มีการกำหนดเวลาหรือไม่ว่าเรือจะออกวันละกี่เที่ยว ทุกๆ กี่ชั่วโมง และถ้ามีคนไม่เต็มเรือ สมมติว่าในชั่วโมงนั้นมาแค่ 2 คน เรือจะออกหรือไม่ ได้รับคำตอบแต่เพียงว่า ยังไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียด ได้แต่วางแผนคร่าวๆ ไว่ว่าจะทำในรูปแบบนี้

อ้างว่าวันเปิดตัวโครงการ 8 สิงหาคมนี้จะให้รายละเอียดมากกว่านี้ เพราะจะต้องหารือกับกลุ่มที่เป็นเจ้าของเรือประมง แต่น่าแปลกใจตรงที่การแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่มีเจ้าของเรือมาแสดงตนบนเวทีแม้แต่รายเดียว แสดงให้เห็นว่าผู้จัดทำโครงการแถลงข่าวกันเอง โดยที่เจ้าของเรืออาจจะยังไม่ได้รับเงื่อนไขตรงนี้

อีกด้านหนึ่ง สื่อมวลชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไปทำข่าวก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงการแจกของชำร่วย ซึ่งประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาครเป็นผู้รับผิดชอบ หัวหน้าประชาสัมพันธ์จังหวัดกล่าวว่าได้จัดไว้สำหรับผู้ที่มาร่วมแถลงข่าว 80 ชุด แต่เจ้าหน้าที่กลับนำของแจกไปเก็บ

หนำซ้ำทราบภายหลังว่าจะแจกให้เฉพาะส่วนราชการ และนักข่าวที่เป็นพรรคพวกกัน บางคนที่ไม่ได้ไป ก็มีพรรคพวกนักข่าวด้วยกันเองโทรศัพท์กรี๊งกร๊างบอกว่าจะเอาเสื้อไหม เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้ สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำและไม่ชอบมาพากลตั้งแต่โครงการยังไม่ออกมาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเสียด้วยซ้ำ

ความน่าสงสัยหลายประการหลังการแถลงข่าวผ่านพ้นไป เกิดขึ้นพร้อมกับคำถามที่ว่า โครงการล่องเรือประมงชมอ่าวมหาชัย ซึ่งใช้งบประมาณรวม 3.84 ล้านบาทนั้น เมื่อออกเรือกันจริงๆ แล้ว ผลที่สุดจะคุ้มทุนหรือไม่ และจะสร้างรายได้ให้ชาวประมงอย่างยั่งยืนหรือไม่

ในเมื่ออะไรหลายอย่างยังไม่มีความชัดเจน แม้กระทั่งหากนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าจะรับมืออย่างไร ก็ยังไม่มีคำตอบ.



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง