“ตีกันในโรงพยาบาล” ไม่มีใครเขาทำกันหรอก?

เป็นที่น่าอดสูแก่ผู้พบเห็น เมื่อโลกโซเชียลเผยแพร่วีดีโอคลิปกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลกระทุ่มแบน แล้วทำร้ายคู่อริที่กำลังรอเข้ารับการรักษา หนึ่งในนั้นใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตี

ส่วนด้านนอกใช้ปืนยิงขู่ขึ้นฟ้านับสิบนัด ก่อนใช้รถกระบะสีขาวหลบหนีไป มีผู้บาดเจ็บ 3 คน คือ นายสุรเชษฐ์ อนันต์ชัยศิลป์ อายุ 26 ปี เย็บ 20 เข็ม นายเนวิน แป้นเงิน อายุ 24 ปี และนายธีรยุทธ เชื้อแพ่ง อายุ 26 ปี

โลกโซเชียลต่างประณามพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุว่ามีความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ลงมือได้แม้กระทั่งในโรงพยาบาล ส่วนคนไข้ ญาติ และบุคลากรทางการแพทย์ต่างหวาดผวาถึงความปลอดภัยในโรงพยาบาล

ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ใช้เวลาคลี่คลายคดี 2 วัน จึงสามารถจับกุมตัว นายชาคริต นกขำดี อายุ 18 ปี ซึ่งมีรอยสักที่ใบหน้าจนแตกต่างจากคนอื่น และเคยถูกจับกุมคดีลักรถจักรยานยนต์

ก่อนจะขยายผลจับกุมนายกรญวัฒฐ์ บุญชู อายุ 36 ปี, นายณัฐพร รัตนบุรี อายุ 30 ปี, นายวาทิต ประวิรัตน์ อายุ 27 ปี, นายแดง แท่งทอง อายุ 28 ปี, นายอนุรักษ์ พุฒศิริ อายุ 31 ปี เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 4 นัด

และ นายฐิติพงษ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 40 ปี เป็นคนรับปืนต่อจากนายอนุรักษ์ ยิงขึ้นฟ้าอีก 11 นัด จากการตัวจสอบประวัติเกือบทั้งหมดเคยมีคดีอาญาติดตั้วทั้งสิ้น ทั้งค้ายาเสพติด ลักทรัพย์ จี้ชิงทรัพย์ แม้แต่ข่มขืนก็มี

สังคมเกิดความกังขาว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปล่อยให้อาชญากรเดินเพ่นพ่านเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วมาก่อความเดือดร้อนกันถึงโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นใดๆ ได้อย่างไร

ฤาจะถึงยุค “ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน” คืนคนดีสู่สังคมไม่มีอยู่จริง ประชาชนคนธรรมดาต้องอยู่ในความเสี่ยง วันดีคืนดีอาจต้องเจอความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ราวกับบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป!

พึงสำเหนียกเอาไว้เลยว่า โรงพยาบาลเป็นพื้นที่สันติวิธี แม้ในยามสงครามยังต้องละเว้นซึ่งกันและกัน

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึงกับต้องฝากตำรวจเลยว่า ขอให้ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ อย่างเฉียบขาด เพื่อเป็นแบบอย่าง ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

พร้อมกันนี้ ยังย้ำเตือนกับโรงพยาบาลทุกแห่งถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ให้มีการเพิ่มเวรยาม 24 ชั่วโมง มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน

และให้ผู้อำนวยการทุกโรงพยาบาล ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทหารขอกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นกรณีเฉพาะ

“สถานพยาบาลเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ตามหลักสากลว่าเป็นพื้นที่ปลอดความรุนแรง แม้ในช่วงศึกสงครามก็ยังละเว้นที่สถานพยาบาลไว้เพราะเป็นที่รักษาคนเจ็บป่วย จึงอยากวอนขอคนไทยว่าให้ละเว้นความรุนแรงในสถานพยาบาล”

ขณะที่ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เจ้าของแฟนเพจ “หมอแล็บแพนด้า” ระบุว่า เราจะปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านี้ผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้

เป็นความน่าอับอายระดับประเทศ สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง ขอวิงวอนตำรวจจริงจัง ช่วยจับกุมและบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด สำหรับผู้ปกครองก็ช่วยดูแลบุตรหลานด้วย อย่าปล่อยให้ลูกเป็นอันตรายต่อสังคม

ย้ำว่า “ไปตีกันในโรงพยาบาล ไม่มีประเทศอารยะที่ไหนเขาทำกัน”

กระทุ้งกันอย่างนี้แล้ว หวังว่าคงจะเข้าใจ แต่ถ้าคนบางกลุ่มไม่เข้าใจ แล้วยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพราะเห็นว่าที่ไหนก็มี ต้องบอกได้คำเดียวว่า สังคมยุคนี้ต้องหนีไปอยู่ในตรอก เกินกว่าจะเยียวยา

– กิตตินันท์ นาคทอง –

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *