ต้องยอมรับว่า อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นับเป็นแหล่งเพาะปลูก มีประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและชาวสวนจำนวนมาก ทำให้ที่ผ่านมาบ้านแพ้วมักมีพืชผลชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้น ออกแข่งขันสู่ตลาดได้ตลอด จนเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วไป ด้วยวิธีคิดวิธีต่อสู้ไม่ย่อท้อของเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งชอบปรับปรุงตัวอยู่ตลอด ส่งผลให้ชาวเกษตรกรบ้านแพ้วปลูกพืชผลไม้ได้ไม่เป็นรองใคร

สันติพงษ์ เอี่ยมสมบูรณ์ หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี เกษตรกรชาว ต.หนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร บอกว่า ได้ยึดอาชีพทำสวนผลิตลำไย “พันธุ์พวงทอง” อยู่ที่ อ.บ้านแพ้ว ในเนื้อที่กว่า 36 ไร่ แบ่งเป็น 2 แปลง ระหว่าง 10 ไร่ และจำนวน 26 ไร่ เพื่ออาศัยปลูกลำไยเป็น 2 รุ่น สลับเปลี่ยนหมุนเวียนผลผลิตให้ได้ตามช่วงที่ต้องการหรือ 2 ครั้งต่อปี โดยร่วมกับพี่ๆ น้องๆ 3-4 คน ทำให้ปัจจุบันมีต้นลำไยกว่า 500 ต้น

ซึ่งก่อนหน้าได้ร่วมปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์พวงผสมลำไยพื้นที่ออกมาจำหน่ายยาวนาน เนื่องจากเป็นลำไยเนื้อดีมีคุณภาพ เนื้อหนาและหวานหอม ส่งผลให้ล่าสุดได้รับรางวัลการการคัดเลือกสินค้าดีแห่งบ้านแพ้ว และยังได้รับเชิญให้เตรียมนำลำไยที่มีอยู่เข้าร่วมประชันโชว์ผลงาน “สมุทรสาคร เอ็กซ์โป 2014” ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 เม.ย. ถึง 5 พ.ค. นี้ ที่ตลาดทะเลไทย ถนนพระราม 2

สันติพงษ์ บอกว่า ได้ยึดอาชีพเกษตรกรมาไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว โดยเฉพาะทำสวนลำไยประมาณ 15-16 ปี หลังล้มลุกคลุกคลานในการทำสวนมาหลากหลายชนิด มีทั้งขาดทุนและกำไร กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ผลิตลำไยอันโด่งดังเพราะสามารต่อสู้เรื่องคุณภาพได้ ส่งผลให้มีความรู้และเชี่ยวชาญาญกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ทำให้สามารถเผยแพร่ความรู้ที่สะสมมาให้แก่สู่ผู้สนใจได้

ผลจากการศึกษาลำไยพันธุ์พวงทองพบว่าคล้ายคลึงใกล้เคียงกับลำไยพันธุ์ดีๆ อย่างเช่น อีดอ ที่นิยมบริโภคกัน ซึ่งมีข้อดี เช่น เปลือกบาง มีเนื้อหนา เมล็ดเล็ก ลูกใหญ่กลมกว่า และมีรสชาติหวานหอม ตลอดจนเนื้อกรอบแห้ง ที่สำคัญไม่ฉ่ำน้ำเกินไป ทำให้สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ครอบครัวอย่างเป็นกอบเป็นกำ สนนราคาส่งออกจากสวนเริ่มต้นประมาณกิโลกรัมละ 50-90 บาท หรือตามสภาพสดใหม่และขนาดของผลผลิตลำไย

“ลำไยพวงทองนั้นดั้งเดิมมาจากแถบภาคเหนือก่อนจะนำมาปรับปรุงผสมสายพันธุ์ มายกร่องสวนที่มีน้ำล้อมรอบอาจแตกต่างๆจากภาคอื่นๆ เป็นแบบฉบับสูตรจังหวัดสมุทรสาคร โดยวางระยะปลูกยกร่องสวนราว 6 เมตร ทำหน้าร่องกว้างประมาณ 3 วา 2 ศอก ซึ่งแรกเริ่มได้ซื้อกิ่งพันธุ์มาทดลอง จากนั้นก็ยกเลิกสายพันธุ์เก่าไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากเนื้อน้อย

ส่วนปุ๋ยยาที่ใช้มาคลุกเคล้ากันคือปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีบ้างบางส่วน อาทิ สูตร 16-16-16 สูตร 8-24-24 ใช้ใส่ช่วงที่ต้นลำไยกำลังสมบูรณ์ นอกจากนั้นเป็นส่วนขั้นตอนเทคนิคการเพาะปลูก ซึ่งต้องอาศัยทักษะส่วนตัว โดยปัจจุบันนี้เกษตรกรเริ่มจะมีทยอยล้มไม้เก่า ก่อนหันมาปลูกลำไยพวงทองมาก ขณะเดียวกันยังแพร่สายพันธุ์พวงทองลงไปสู่ภาคใต้ก็ไม่น้อยเช่นกัน”

สันติพงษ์บอกด้วยว่า สำหรับคำปรึกษาที่แนะนำเบื้องต้นไปนั้นยังยินดีให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจที่หากจะทดลองปลูกลำไยนอกฤดูซึ่งไม่ต้องแย่งชิงเรื่องการตลาดกับใคร หรือหากต้องการหาซื้อผลผลิตไปเพื่อเพาะปลูกไว้บริโภค และนำไปจำหน่ายต่อ สามารถติดต่อผ่านได้ที่กลุ่มวิสาหกิจสินค้าชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร

• มานพ พฤฒิวโรดม •