อำเภอบ้านแพ้ว นอกจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เพาะปลูกพืชผักผลไม้จำนวนมากที่สมบูรณ์ใน จ.สมุทรสาคร แล้วยังเป็นเพาะเลี้ยงปลาสลิดขนาดใหญ่ในหลายตำบล นับเป็นแหล่งที่มีปริมาณปลาสลิดรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำแก่เกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีพ่อค้าคนกลางรับซื้อไป เพื่อนำไปจำหน่ายอีกทอด เสริมรายได้แก่ครอบครัว

จากผลวิจัยด้วยปริมาณปลาสลิดที่มีมาก ยังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สามารถนำวัตถุดิบแปรรูปกระจายออกเป็นสินค้าจำหน่ายเกือบทั่วประเทศ ทั้งปลาสลิดสด (ดองน้ำเกลือ) และแปรรูปปลาสลิดแห้ง หรือสลิดแดดเดียว อย่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยกกระบัตร หมู่ที่ 7 ในนาม “ผู้ใหญ่เจ้ยปลาสลิดแดเดียว” ล่าสุดมีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 70 คน แบ่งปันรายได้จากการจำหน่ายสินค้าปลาสลิดเดือนละไม่ต่ำกว่า 5,000 ถึง 10,000 บาท

ล่าสุด ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ความสนใจนำคณะหน่วยงานราชการลงพื้นที่ออกเยี่ยมกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัด เพื่อสำรวจความเคลื่อนไหวและรับข้อมูลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด ตามโครงการผู้ว่าฯ สัญจร เยี่ยมกลุ่มอาชีพ ที่หมู่ 7 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

โดยมี นายเจ้ย ชื่นภิรมย์ หรือผู้ใหญ่เจ้ย วัย 51 ปี ผู้ก่อตั้งที่เรียกผู้เลี้ยงปลาในเขตพื้นที่รวมตัวเป็นสมาชิกดูแล มาเข้าร่วมแล่ปลาสลิดสดเพื่อดองเกลือ และปลาสลิดแดดเดียว ไว้จำหน่ายแก่ลูกค้าในนาม “กลุ่มผู้ใหญ่เจ้ยปลาสลิด” กระทั่งปัจจุบันสามารถจำหน่าย กระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคหลายจังหวัด ด้วยการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีอยู่จำนวนมาก มาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้านอาชีพ

ผู้ใหญ่เจ้ย เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มแปรรูปสินค้าปลาสลิดเป็นคนแรก หลังพบชาวบ้านและเกษตรกรมักนิยมเลี้ยงปลากันอย่างกว้างขวางทั้งในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้มีจำนวนปลาเป็นแหล่งใหญ่ ซึ่งเดิมทีก็มีอาชีพเป็นชาวนาอยู่ก่อนประมาณ 20 ไร่ จากนั้นด้วยปริมาณการเลี้ยงปลาสลิดที่มีมาก จึงตัดสินใจยกระดับฐานะอาศัยที่ดินที่มีอยู่จำนวน 10 ไร่ มาเลี้ยงสลิดเพื่อจำหน่ายเอง

ต่อมาได้ค่อยๆ ขยายกิจการ ด้วยการออกรับซื้อปลาตามบ่อในเครือข่ายที่รู้จัก ก่อนจะตั้งกลุ่มเพื่อมาร่วมดำเนินการแปรรูปปลาสลิดในลักษณะปลาสด แช่ดองน้ำเกลือ ตั้งแต่ประมาณปี 2553 และปลาตากแห้งหรือสลิดแดดเดียว เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าที่ต้องการ โดยเริ่มแรกมีสมาชิก 24 คน

“แรกๆ ก็ขายไม่มาก ประมาณ 20-50 กิโลกรัม ค่อยขยายขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีเพื่อนมาร่วมแบ่งงานแปรรูปแล่ปลาเพื่อออกจำหน่าย กระทั่งขณะนี้สามารถเป็นรายได้หลัก แบ่งปันรายได้แก่สมาชิกในกลุ่ม สำหรับความต้องการมากที่สุด ได้แก่ ปลาสดเป็นส่วนใหญ่ ที่นำมาแล่ตัดหัวและไส้ออกก่อนดองน้ำเกลือ โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อมากที่สุดก่อนเพื่อนำไปจำหน่ายเกือบทั่วประเทศอีกทอด”

ผู้ใหญ่เจ้ย บอกด้วยว่า สำหรับองค์ประกอบที่ต้องใช้งานและลงทุน อาทิ ภาชนะต่างๆ การสร้างโครงเหล็กหลังคาโค้งใสเพื่อใช้ตากปลา ถังแช่ และโต๊ะชั้นตั้งวาง เป็นต้น อย่างไรก็ตามขณะนี้มียอดรับซื้อปลาเข้ามาในผลิตเฉลี่ยกว่าเดือนละ 300,000 บาท ส่งผลให้สามารถจัดสรรรายได้แก่สมาชิกตามหุ้น สร้างความพอใจแก่บรรดาสมาชิก โดยในเขตอำเภอบ้านแพ้ว มีการเลี้ยงสลิดทั้งสิ้นประมาณกว่า 7 พันไร่

– มานพ พฤฒิวโรดม : รายงาน / โทรศัพท์ 08-7151-2525 –