มหาชัยพา(ไม่)เพลิน โครงการขาดแม่เหล็ก-ผู้ค้าหนีตาย

หลังเปิดตัวไม่ทันไรก็ถึงคราวเก็บฉาก เมื่อโครงการพลาซ่าบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ริมถนนเศรษฐกิจ ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ภายใต้ชื่อ “มหาชัยพาเพลิน” วันนี้อยู่ในสภาพที่ซบเซา ร้านค้าแทบทุกร้านพากันปิดตัว เหลือเพียงแค่ตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ และเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ยังมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านค้าพากันร้องเรียนต่อผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เพื่อขอเงินที่ได้จ่ายในการจองพื้นที่ทั้งหมดคืนจากทางโครงการฯ

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “เสียงประชา” ฉบับเดือนสิงหาคม 2553 รายงานว่า เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้ามหาชัยพาเพลิน เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยให้รายละเอียดว่า เนื่องจากโครงการมหาชัยพาเพลินได้เปิดให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดโครงการในวันที่ 7 มิถุนายน 2553

ระหว่างนั้นได้สอบถามเจ้าหน้าที่โครงการก็ได้รับคำตอบว่า โครงการจะแล้วเสร็จทันโครงการเปิดแน่นอน จะมีสินค้าโอท็อป และสินค้าธงฟ้ามาลงบริเสณพื้นที่ว่างด้านข้างไม่มีขาด แต่พอถึงเวลาจริงๆ งานที่เจ้าของโครงการจัดมาลงพื้นที่ว่างกลับมีแต่ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ ปาลูกโป่ง ปากระป๋อง จับเบอร์ ฯลฯ หลายกิจกรรมเหมือนสนับสนุนให้เล่นการพนัน มิใช่การจัดงานโอท็อปหรือธงฟ้าตามคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลโครงการแต่อย่างใด

ผู้ประกอบการร้องเรียนว่า โครงการมหาชัยพาเพลินยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่กลับบังคับให้ผู้ประกอบการเข้ามาขายของ หากหยุดขายติดต่อกันเกิน 3 วัน จะมีผลให้สัญญาที่ทำไว้ถูกยกเลิก นอกจากนี้ มีผู้ประกอบการร้านค้าหลายรายที่เสียผลประโยชน์จากการเข้ามาจับจองพื้นที่ ทั้งการตกแต่งร้านเพิ่มเติม ทั้งเงินค่าเช่าและเงินมัดจำที่ได้จ่ายไว้กับเจ้าของโครงการในการจับจองพื้นที่ ซึ่งเป็นเงินออมที่เอามาลงทุน

นอกจากนี้มีการให้จองพื้นที่ซ้ำซ้อนกัน และมีการกล่าวอ้างหลอกลวงผู้ที่เข้ามาจับจองว่าพื้นที่ว่าจะมีธนาคาร ที่ทำการไปรษณีย์ และร้านสะดวกซื้อชื่อดังจะเข้ามาดำเนินกิจการในโครงการ แต่กลับพบว่าร้านค้าในอาคารด้านหน้ามีแต่ห้องกระจกว่างเปล่า จึงเรียกร้องให้ทางโครงการคืนเงินที่ได้จ่ายไปในการจองพื้นที่ไว้คืนทั้งหมด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานราชการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบโครงการ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการด้วย

โครงการมหาชัยพาเพลิน บริหารงานโดย บริษัท แม็กซ์ พรอพเพอร์ตี้ ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด เป็นพลาซ่าบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ประกอบด้วยอาคารขนาดใหญ่ 30 ไร่ เป็นอาคารขนาดใหญ่ชั้นเดียว แบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือทาวเวอร์ที่ 1 ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้านค้า จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด อาทิ กิ๊ฟท์ช็อป โทรศัพท์มือถือ และสินค้าไอที ทาวเวอร์ที่ 2 วางแผนไว้ให้เป็นซุ้มจำหน่ายอาหาร ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ และพื้นที่แสดงสินค้าตามเทศกาลงานต่างๆ

โดยทาวเวอร์ที่ 2 จะอยู่ด้านหน้าติดกับถนนเศรษฐกิจ ส่วนทาวเวอร์ที่ 1 อยู่ด้านหลัง มีทางเดินเชื่อมระหว่าง 2 อาคาร มีถนนโดยรอบสามารถวิ่งได้รอบโครงการ มีพื้นที่สำหรับจอดรถ สามารถรองรับได้มากกว่า 500 คันโดยประมาณ ค่าเช่าพื้นที่เดือนละ 4,500 บาท เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 แต่อยู่ได้ไม่นานกลับพบว่าบรรยากาศซบเซา มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยน้อยกว่าที่คาด ทำให้พลาซ่าแห่งนี้จำต้องปิดตัวเองหลังเปิดได้เพียง 3 เดือน

สำหรับบริษัท แม็กซ์ พรอพเพอร์ตี้ ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด มีนายศักดิ์ชัย และนางเพ็ญทูล อยู่วิทยา เป็นกรรมการบริษัท จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2550 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ที่ตั้งบริษัท 200/255-257 หมู่ที่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ วัตถุประสงค์บริษัท ประกอบกิจการให้เช่าห้องพัก หรือ อพาร์ทเม้นท์ และให้บริการเช่าเครื่องใช้ของใช้ที่ใช้ประจำอยู่

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา หลังจากโครงการมหาชัยพาเพลินเปิดตัว ส่วนใหญ่เห็นว่าโครงการไม่แล้วเสร็จ ร้านค้ามีไม่เต็ม ไฟไม่ค่อยสว่าง บางคนมองไปด้านในเห็นว่าไม่มีร้านไหนเปิดก็กลับ นอกจากนี้เสียงสะท้อนจากผู้ค้ายังประสบปัญหาทางโครงการจะเก็บเงินค่าเช่า รวมทั้งค่าส่วนกลางที่ไม่ได้ระบุในสัญญา แต่ยังมีการเรียกเก็บเพิ่ม บางรายถูกขายล็อคซ้ำก็ไม่คืนเงินให้ ต้องเอาตัวรอดด้วยการไปออกตลาดนัดแทน

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าเจ้าของโครงการสั่งคืนเงินร้านค้า โดยให้ผู้ค้ามายกเลิกสัญญา ซึ่งขณะนี้มีร้านค้ามาขอรับเงินคืนกันเกือบหมดแล้ว และเตรียมปรับปรุงพื้นที่ด้วยการปรับโซนใหม่ ทุบอาคารด้านหน้าออก และปรับฮวงจุ้ยในโครงการใหม่ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2553

สำหรับพื้นที่ตัวเมืองสมุทรสาครและใกล้เคียง เคยมีห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และพื้นที่พลาซ่าเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่ในช่วงที่ผ่านมาต่างก็ล้มหายตายจาก โดยผลพวงจากกลุ่มทุนค้าปลีกขนาดใหญ่ แต่ถึงกระนั้นด้วยข้อจำกัดและกฎเหล็กในเรื่องกฎหมายค้าปลีก ทำให้กลุ่มทุนค้าปลีกขนาดใหญ่ปรับตัวด้วยการเปิดสาขาย่อส่วนที่ใช้พื้นที่ไม่มากนักมาให้บริการ และจับมือกับพันธมิตรที่เป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นที่มีพื้นที่อยู่แล้วเพื่อเปิดสาขาในชุมชนหรือตัวเมือง

ในส่วนของผู้ประกอบการท้องถิ่นที่โดดเด่นที่สุดเป็น “น้ำพุพลาซ่า” ของตระกูลพุกตุ่น ตั้งอยู่วงเวียนน้ำพุใจกลางเทศบาลนครสมุทรสาคร ก่อนหน้านี้ได้ดึงพันธมิตร “ท็อปส์ ซุปเปอร์” ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัลเป็นแม่เหล็ก เปิดให้บริการชั้นใต้ดิน เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้กับห้างฯ พร้อมปรับปรุงพื้นที่ทั้งอาคาร ดึงร้านค้าชื่อดัง อาทิ ไอศกรีมสเวนเซ่นส์ ร้านโทรศัพท์มือถือฮัทซ์ เทเลวิช ดีแทคเซ็นเตอร์ กลุ่มเป้าหมายมีทั้งวัยรุ่นตามสถานศึกษาใกล้เคียง และแรงงานต่างด้าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริเวณถนนสหกรณ์ ระหว่างวิทยาลัยพลศึกษาสมุทรสาคร กับโครงการหมู่บ้านมหาชัยเมืองทอง ก็เคยมีศูนย์การค้าที่ชื่อว่า “ติดดินพลาซ่า” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “มหาชัยพลาซ่า” แม้กระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันยังเหลือ “ท็อปส์ ซุปเปอร์” ที่ได้เปิดสาขามหาชัยพลาซ่าเป็นแห่งที่สองในจังหวัด ยังคงให้บริการเป็นแม่เหล็กจนถึงปัจจุบัน โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่พักอาศัยในย่านถนนสหกรณ์เป็นหลัก

การกลับมาของ “มหาชัยพาเพลิน” ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ต้องจับตาว่าจะมีแม่เหล็กรายใดมาเสริมภาพลักษณ์ของโครงการ หลังจากการเปิดตัวรอบแรกด้วยความรีบร้อนเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และด้วยบนถนนเศรษฐกิจมีทั้งเทสโก้ โลตัส และน้องใหม่อย่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ดูเหมือนนักช็อปจะโตวันโตคืน คงเป็นเรื่องลำบากหากไม่มีแม่เหล็กรายใดมาเสริมทัพให้แหล่งช็อปปิ้งแห่งนี้มีความนำสมัย และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง