“ปัญญาสาคร-โพธิเพียรทอง” สู้ศึกกลุ่มทุนกรุงเทพฯ

ก้าวสำคัญของ “สุเทพ ปัญญาสาคร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในจังหวัดสมุทรสาคร หลังประสบความสำเร็จกับโครงการบ้านจัดสรรภายใต้ชื่อ “มหาชัยเมืองทอง” และ “รินรดา” แล้ว จะเห็นได้ว่าเขากำลังผลักดันเบรนด์โครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดที่ชื่อ “เดอะพราว” และทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ “บ้านดี” ซึ่งกำลังเปิดการขายอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและคอมมูนิตี้มอลล์ภายใต้ชื่อ “พอร์โต วิลล่า”

แต่ในส่วนของการบริหารงานภายใน จะเห็นว่าหลังจากที่การแข่งขันในกรุงเทพฯรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าไปแข่งขันในย่านนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับตัวรับมือ ด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้มากยิ่งขึ้น นอกจากการปรับแบรนด์และรวมบริษัทในเครือที่มี 3 แห่งให้อยู่ภายใต้บริษัทเดียวคือ ดี แลนด์ กรุ๊ป แล้ว การผ่าตัดใหญ่ครั้งสำคัญคือการปรับโครงสร้างองค์กร ดึงนักธุรกิจน้ำมันและห้องเย็นตระกูล “โพธิเพียรทอง” เข้ามาถือหุ้นเพิ่มเติม

สุเทพเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 15 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวขององค์กร ซึ่งจากเดิมกลุ่มปัญญาสาคร จะเป็นผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียว และปัจจุบันได้ปรับสัดส่วนเหลือเพียงกว่า 40% ส่วนกลุ่มทุนใหม่อีก 2 กลุ่มเข้ามาถือหุ้นคือกลุ่มของ “นายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง” ซึ่งทำธุรกิจห้องเย็นและกลุ่มทุนจากกรุงเทพฯ ในสัดส่วนรายละกว่า 20% ขณะเดียวกัน ก็จะควบบริษัทในเครือทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด

สำหรับนายเพิ่มเกียรตินั้น เป็นเจ้าของธุรกิจขายน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ “บริษัท โชคมหาชัย จำกัด” และประกอบกิจการห้องเย็นภายใต้ชื่อ “บริษัท โชคมหาชัยมารีน จำกัด” ร่วมกับพี่น้องในตระกูล เช่น นายพรชัย โพธิเพียรทอง เจ้าของบริษัท แปซิฟิคมารีนฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจร่วมกับนายวิชัย ถาวรทวีวงษ์ เจ้าของบริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ จำกัด, นายวัลลภ โพธิเพียรทอง ทำธุรกิจปลาป่น และประกอบกิจการนำเที่ยวภายใต้ชื่อ บริษัท ซิงเกิ้ลไลนทราเวล จำกัด ร่วมกับนายสมชาย โพธิเพียรทอง รวมทั้งนายวันชัย โพธิเพียรทอง ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ชัยจินดา ซีฟู้ด จำกัด ร่วมกับนางจินดา โพธิเพียรทอง

นอกจากนี้ นายเพิ่มเกียรติยังเป็นกรรมการ “บริษัท เกษมโชคพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” ประกอบธุรกิจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกับ นายสมบูรณ์ อุ่นพันธุ์วาท เจ้าของโรงปูนขาวนำชัย ย่าน ต.โคกขาม, นายสกล จินดาโชตสิริ เจ้าของบริษัท ไทยซิตริก แอซิด จำกัด, นายพล เสวกวิจิตรกุล, นายธนา จินดามณีโรจน์, นายไพบูลย์ ภัทรอาชาชัย และนายสุเทพ เชี่ยวพิมลพร เจ้าของโรงงานน้ำปลา บริษัท พิมลพร จำกัด ย่านถนนธรรมคุณากร (วัดโกรกกราก) ซึ่งบริษัทเกษมโชคพร็อพเพอร์ตี้จดทะเบียนเมื่อปี 2538

ธุรกิจของตระกูลโพธิเพียรทองหากใครเป็นคนช่างสังเกต มักจะมีคำว่า “โชค” หรือ “โชคมหาชัย” กำกับอยู่ เช่น โชคสมุทรมารีน, โชคมหาชัย การาจ ฯลฯ ซึ่งหากใครได้มีโอกาสพลิกอ่านนิตยสารท่าจีน ซึ่งเป็นแทบลอยด์แจกฟรีรายเดือนในตัวเมืองมหาชัย ไม่น่าแปลกใจกับชื่อของ “ภิญโญ โพธิเพียรทอง” ซึ่งเป็นเจ้าของ ก่อนหน้านี้ประกอบกิจการรับออกแบบและผลิตสิ่งพิมพ์ภายใต้ชื่อ “โชคมหาชัย พริ้นติ้ง” ซึ่งได้กลายมาเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด “ท่าจีนครีเอชั่น” ในปัจจุบัน

การจับมือกันระหว่างสองตระกูลดังกล่าว คาดการณ์กันว่าเป็นการดึงศัยภาพของกลุ่มทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่งตระกูลโพธิเพียรทองก็มีความสัมพันธ์อันดีกันมาก่อน หากใครได้สังเกตก้าวย่างของตระกูลปัญญาสาคร จะเห็นได้ว่าเคยมีการดึงกลุ่มทุนเข้ามาร่วมลงทุนโครงการต่างๆ เช่นการก่อตั้งโรงพยาบาลเอกชัย ซึ่งได้ร่วมทุนกับกลุ่มซอสปรุงรสตราง่วนเชียง และกลุ่มแพทย์ นำโดยนายแพทย์เกรียงไกร จีระแพทย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด ก็เคยทำมาแล้ว

ในสภาวะการแข่งขันด้านอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่กลุ่มทุนสมุทรสาครจะผนึกกำลังเพื่อสู้ศึกกับกลุ่มทุนจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีความพร้อมทั้งเงินทุนและเครื่องมือทางการตลาด แต่ด้วยจุดขายที่ว่าเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญ เข้าใจวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี จะสามารถเข้ากับกลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯ ที่ต้องการหนีความแออัดและเลือกซื้อบ้านราคาย่อมเยาในพื้นที่ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่พิสูจน์กันต่อไป.



1 ความคิดเห็น เรื่อง ““ปัญญาสาคร-โพธิเพียรทอง” สู้ศึกกลุ่มทุนกรุงเทพฯ”

  1. นงลักษณ์ กล่าวว่า:

    ธ.ค. 12, 12 at 5:28 am

    อยากให้ ทางจ.สมุทรสาคร มีศูนย์ ไอที พลาซ่า เหมือนพันธ์ทิพย์ เกิดขึ้นที่โครงการค่ะ น่าจะไปได้ดี


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง