ในที่สุด ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผู้บังคับการกองทะเบียนพล จะมาเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร แทน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 กรุงเทพมหานคร

แม้การโยก พล.ต.ต.สรไกร ย้ายข้ามห้วยจากงานที่ดูแลด้านทะเบียนกำลังพล มาจับงานที่ใหญ่ขึ้น เพราะต้องดูแลทั้งฝ่ายอำนวยการ กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานสอบสวน และยังต้องดูแลสถานีตำรวจในจังหวัดอีก 5 สถานี ได้แก่ สภ.เมืองสมุทรสาคร สภ.โคกขาม สภ.บางโทรัด สภ.กระทุ่มแบน และ สภ.บ้านแพ้ว แต่เมื่อดูจากโปรไฟล์การทำงานในช่วงที่ผ่านมาแล้ว นับว่าเขาคนนี้ “ไม่ธรรมดา”

อีกทั้งยังมีตำรวจที่มีชื่อเสียง และมีฝีมือในการคลี่คลายคดีสำคัญๆ นำโดย พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (ปราบปราม) และ พ.ต.อ.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งคนสมุทรสาครจะพบเห็นเป็นประจำ ขึ้นอยู่กับว่า พล.ต.ต.สรไกร จะปรับตัวให้เข้ากับการทำงานหรือไม่

สำหรับ พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม หรือ “ผู้การกุ้น” จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 39 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ปัจจุบันเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม), พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นต้น

จากนั้น จบการศึกษาปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2506 เคยเข้ารับการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการเหตุวิกฤต วิทยาลัยตำรวจ รัฐหลุยส์เซียนา สหรัฐอเมริกา ปี 2546

ขอขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ๊ก “สรไกร พูลเพิ่ม”

ประสบการณ์รับราชการย้อนหลัง เคยเป็นผู้ช่วยนายเวร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากนั้นในปี 2542 เป็นรองผู้กำกับการ 3 กองทะเบียนพล ปี 2544 เป็นผู้กำกับการ (ทำหน้าที่นายตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ ทนท.นรพ.กอ.รมน.) สำนักงานกำลังพล, ปี 2546 เป็นผู้กำกับการอำนวยการ กองตรวจคนเข้าเมือง 2 (ในขณะนั้น), ปี 2548 เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานแห่งชาติ (ในขณะนั้น) จากนั้นเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานจเรตำรวจ

ปี 2551 เป็นรองผู้บังคับการ กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จากนั้น เป็นรองผู้บังคับการ ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, ปี 2554 เป็นผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล รับผิดชอบงานด้านการวิเคราะห์ข่าวความมั่นคงของสถาบัน การเมือง เศรษฐกิจ การก่อการร้ายสากล อาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการประสานงานข่าวต่างประเทศ

ปี 2557 เป็นผู้บังคับการกองทะเบียนพล ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนประวัติ การบรรจุและการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ งานพิจารณาความดีความชอบ การจัดระบบงานและบริหารงานบุคคล และการดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินบุคคลของข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการ และลูกจ้างในสังกัด รวมทั้งการปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย

ขอขอบคุณ ภาพจากเฟซบุ๊ก “สรไกร พูลเพิ่ม”

ในช่วงปี 2558 พล.ต.ต.สรไกร เคยรับภารกิจสำคัญในกรณีต่างๆ เช่น เดือนมิถุนายน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการพิจารณาการเยียวยาให้กับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ทวีคูณและเยียวยาย้อนหลัง ซึ่งมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ในขณะนั้น) เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักกำลังพล เป็นเลขานุการ

หรือจะเป็นการถอดยศตำรวจแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ในขณะนั้น) อดีตนายกรัฐมนตรี เดือนสิงหาคม พล.ต.ต.สรไกร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ และ พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และที่ประชุมมีมติต้องปฏิบัติตามระเบียบ ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ

จากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่ง พล.ต.ต.สรไกร เป็นตัวแทนไปประชุมร่วมกับคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ก่อนที่จะมีหนังสือตอบกลับ หลังจากนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ในขณะนั้น) ส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่ที่สุดจบลงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญปี 2557 ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ

ขอขอบคุณ ภาพจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ด้านกิจกรรมทางสังคม ในปี 2554 พล.ต.ต.สรไกรเคยร่วมอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ณ วัดป่าพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ร่วมกับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ แพทย์ นักธุรกิจ รวม 24 คน โดยมีสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นประธานในพิธีปลงผมนาคและเป็นพระอุปัชฌาย์

และในปี 2558 พล.ต.ต.สรไกร เคยนำคณะเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 (นรต.39) มอบเงินจำนวน 2 แสนบาท เพื่อสมทบทุนมูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง เพื่อบริการทางการแพทย์แก่ตำรวจ ทหาร พลเรือน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย.

กิตตินันท์ นาคทอง