วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ : อนาคต “ล้งกุ้ง”

2125-1

วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์
อดีตสมาชิกวุฒิสภา

เมื่อก่อนสิ้นปี ผมได้ข่าวว่าสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยได้ออกแถลงการณ์ว่าจะยกเลิกการว่าจ้างสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้น (ล้ง) ภายนอกตลอดห่วงโซ่อุปทานกุ้งของบริษัทสมาชิก ในการแปรรูปสัตว์น้ำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้าประเภทกุ้ง) ก่อนที่จะมีการส่งให้กับโรงงานผู้แปรรูปและส่งออกอาหารทะเล โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558 โดยมีสาเหตุหลักมาจากสื่อต่างชาติที่ออกมาโจมตีว่ามีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย และการใช้แรงงานเด็ก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สินค้าประมงไทยในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป

การกระทำดังกล่าว ส่งสัญญาณว่า ผู้ประกอบกิจการแปรรูปและส่งออกอาหารทะเลในรูปของสัตว์น้ำแช่แข็งกำลังต้องการจะเอาตัวรอดคนเดียว โดยตัดหางปล่อยวัดผู้ประกอบการล้งต่างๆน้อยใหญ่ที่มีอยู่นับพันรายทั่วประเทศ

ถ้าถามผม ผมว่า “เป็นการเห็นแก่ตัว” ไปหน่อยไหมครับ

ถ้าจะถามว่า “ทำไม”

คำตอบของผม คือ “ล้ง” (ในอุตสาหกรรมอาหารทะเล) ในประเทศไทย นั้น เกิดขึ้นจากความไม่รับผิดชอบของผู้ประกอบกิจการแปรรูปและส่งออกอาหารทะเลในรูปของสัตว์น้ำแช่แข็งมาแต่ต้น เพราะในสมัยเมื่อ 20-30 ปีก่อน โรงงานเหล่านี้ ต้องการปัดความรับผิดชอบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม (น้ำทิ้ง) และปัญหาสวัสดิการแรงงานที่ตนเองจะต้องดูแลตามกฎหมาย จึงสร้าง “ล้ง” ขึ้นมา เพราะ “ล้ง” ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร มีน้ำเสียก็ปล่อยทิ้งลงคลอง ลงแม่น้ำ ลงท่อระบายน้ำ จนเหม็นไปทั่วเมือง (เพราะถ้าทำในโรงงานจะต้องมีที่สร้างบ่อบำบัดน้ำเสียและระบบการบำบัด) เรื่องสวัสดิการของแรงงานก็ไม่ต้องสนใจ จะจ้างถูก จ้างแพง ไม่มีสวัสดิการ ฉันก็ไม่รับรู้ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวและไม่รับผิดชอบมาแต่ต้น

วันนี้ก็ออกมาแสดงให้เห็นอีกแบบแก้ผ้าหมดตัวเลยทีเดียว เพียงเพื่อต้องการเอาตัวรอดคนเดียว

จังหวัดสมุทรสาครที่ผมอยู่ แม้จะต้องรับสภาพของกลิ่นคาวปลา กลิ่นเหม็นจากสายการผลิตสัตว์น้ำทั้งระบบ ตั้งแต่สะพานปลา ล้ง และโรงงานแปรรูปต่างๆ ตอนนี้โดนหลายเด้งทีเดียวครับ ทั้งประมงพาณิชย์ในเขตน่านน้ำไทย ประมงนอกน่านน้ำ และวันนี้มาเจอกับ “ล้ง” อีก คนสมุทรสาครแทบจะไปกันไม่เป็นเลย เพราะต่างก็ได้รับผลกระทบมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร

คำว่า “ล้ง” นั้น มาจากคำ “ภาษาจีนแต้จิ๋ว” แปลว่าโรงเรือนครับ แต่ได้ยืมมาใช้สำหรับ “สถานที่ที่ใช้ในการแปรรูปสินค้าเกษตรเบื้องต้น” ซึ่งจะเห็นว่ามีทั้ง “ล้งกุ้ง และล้งปลา” ในจังหวัดชายทะเล “ล้งเงาะ ล้งทุเรียน” ในภาคตะวันออก “ล้งลำใย” ในภาคเหนือ เป็นต้น

อันที่จริง ถ้าจะวิเคราะห์ถึงข้อเท็จจริง “ล้งกุ้งและล้งปลา” ในช่วงปีที่ผ่านมาได้ปรับตัวกันมาหลายรอบแล้ว ทั้งในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของแรงงาน อาจจะกล่าวได้ว่า กว่าร้อยละ 80 เป็น “ล้ง” ที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาแรงงานหรือค้ามนุษย์ที่ถูกกล่าวหาแล้ว

ดังนั้น ปัญหาการเลิกซื้อดังกล่าว ดูจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ “ล้ง” เท่าไร เพราะแทนที่จะแยกน้ำดีออก ส่งเสริมสนับสนุนให้ทำธุรกิจต่อไป เล่นบทแรงตัดทิ้งทั้งยวง ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ก็ตาม

ผมมานึกดู จะโทษสมาคมที่ออกมาประกาศก็ไม่ได้ เพราะเป็นเอกชน แต่ผมกำลังสงสัยหน่วยงานของรัฐ ที่ยอมให้เขาทำได้ตามสบาย ไม่ได้อ่านพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 หมวด 3 ที่ว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดหรืออย่างไร ผม “งง งง งง งง” ครับ

เมื่อเขาไม่ซื้อ ผมก็อยากเสนอให้ “ล้งอาหารทะเล” ทั้งหลาย ลองคุยกันครับ

ผมรู้ว่ามีหลายรายที่มีศักยภาพ หลายรายที่พัฒนาได้ รวมตัวกันเลยครับ ยกระดับไปเป็น “ผู้ผลิตและแปรรูปสัตว์น้ำ” ให้เป็นอาหารสำเร็จรูป จะส่งออกหรือขายในประเทศแข่งกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เขารวมหัวกันไม่ซื้อเราไปเลย ผมว่าท่านได้เปรียบนะ เพราะเป็นโรงงานขนาดเล็ก ต้นทุนต่ำ และอยู่ในพื้นที่ เจาะเข้าไปในตลาดเลยครับ

สำหรับท่านที่ขาดความรู้ ต้องการพัฒนา ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแปรรูปอาหารเยอะแยะเลยครับ คณะอุตสาหกรรมอาหาร หรืออุตสาหกรรมเกษตร ก็มีอยู่หลายมหาวิทยาลัยทีเดียว ลองไปปรึกษา ลองไปขอความรู้ดูครับ ผมเชื่อว่า ทุกมหาวิทยาลัยยินดี

ใครที่อยู่สมุทรสาคร วันนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีศูนย์การศึกษาอยู่ในพื้นที่แล้ว และคณะอุตสาหกรรมเกษตรก็มีหลักสูตรเฉพาะในด้านการแปรรูปอาหารทะเลโดยเฉพาะอยู่ด้วย ลองไปคุยดู หากจะให้ผมประสานให้ ผมก็ยินดีครับ

ไม่ได้อยากจะยุให้แข่งขันกับเขาครับ แต่ไม่อยากเห็น “ล้ง” ต้องเป็นลูกไก่ในกำมือที่ถูกเขาบีบจนเจียนตายอย่างนี้ครับ.

ที่มา : เฟซบุ๊ก “วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์”

อนาคต “ล้งกุ้ง”เมื่อก่อนสิ้นปี ผมได้ข่าวว่าสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยได้ออกแถลงการณ์ว่าจะยกเลิกการว่าจ้างสถานประกอบการแ…

Posted by วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ on Sunday, January 3, 2016

 



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง