“สาครออนไลน์” ได้รับร้องเรียนจากผู้ใช้ถนนพระราม 2 มาว่า จุดกลับรถเกาะกลางถนนบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15+750 ในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากไม่มีไฟเตือน ไฟส่องสว่าง

โดยรถจากขาเข้า ทางหลัก ช่องทางขวา มุ่งหน้ากรุงเทพฯ ด้วยความเร็วสูง เมื่อเจอรถจากขาออกที่กลับรถแล้วเบี่ยงออกช่องทางซ้าย เพื่อเข้าสู่ทางขนาน ทำให้รถขาเข้าด้วยความเร็วต้องเบรกเพื่อให้รถจากจุดกลับรถไปก่อน เสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่าจุดกลับรถบริเวณดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีสัญญาณไฟเตือนกระพรับ มีเพียงแท่งคอนกรีตหรือแบริเออร์กั้นอยู่ โดยพบว่ามีร่องรอยการตีวงรถกว้างกว่าช่องที่กำหนด และรอยเบรกจากช่องทางตรงจำนวนมาก

สำหรับจุดกลับรถดังกล่าว เป็นจุดกลับรถเก่าตั้งแต่ถนนพระราม 2 เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร แต่เมื่อมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร โดยแบ่งออกเป็นทางหลัก 3 ช่องจราจร และทางขนาน 2 ช่องจราจร เมื่อถนนก่อสร้างแล้วเสร็จจึงได้ปิดทางกลับรถถาวร โดยใช้แบริเออร์กั้นเอาไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีชาวชุมชนในถนนแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ร้องเรียนต่อกรมทางหลวงว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดจุดกลับรถ เนื่องจากต้องไปกลับรถใต้สะพานทางรถไฟ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 18 เพื่อเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งมีระยะทางไปกลับกว่า 10 กิโลเมตร

อีกทั้งช่วงเวลาเร่งด่วนการจราจรติดขัดมาก จุดกลับรถดังกล่าวก็คับแคบแต่รถที่มาใช้จุดกลับรถมีมาก ทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย กระทั่งมีนายพิพัฒน์ชัย หรือ สมชาย ไพบูลย์ นักการเมืองพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวว่าจะนำประชาชนบริเวณนั้นออกมาชุมนุมปิดถนนพระราม 2

ในที่สุด เมื่อกลางปี 2555 กรมทางหลวงได้ทำการทดลองเปิดจุดกลับรถชั่วคราว ตามคำร้องเรียนของผู้ใช้ทางในชัวโมงเร่งด่วน ตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น. กลับได้เฉพาะรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล ควบคุมการจราจรโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นระยะเวลา 1 เดือน และมีการกั้นรั้วเหล็กเมื่อหมดเวลา

กระทั่งเวลาต่อมาได้เปิดเป็นจุดกลับรถถาวร โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมการจราจร และถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างหรือสัญญาณเตือนใดๆ แก่ผู้ใช้ทางมาถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานลอยกลับรถ บริเวณกิโลเมตรที่ 17+600 (ขาเข้า) ซึ่งมี บริษัท กรีนไลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้รับเหมา โดยได้เริ่มต้นก่อสร้างไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 17 ตุลาคม 2559

ถึงตอนนั้นหากสะพานกลับรถดังกล่าวเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้ว คาดว่ากรมทางหลวงจะปิดจุดกลับรถบนเกาะกลางถนนเป็นการถาวร และชาวชุมชนในถนนแสมดำจะต้องไปกลับรถที่สะพานกลับรถ แทนการกลับรถบนเกาะกลางถนนถนนเหมือนเช่นทุกวัน.

สาครออนไลน์ ยินดีเป็นสื่อกลางในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เพื่อเผยแพร่ลงในรายงานพิเศษ “ทุกข์สาคร” สามารถแจ้งมาได้ที่หน้าเฟซบุ๊ก facebook.com/sakhononline หรืออีเมล sakhononline@hotmail.com