ขณะนี้กรมทางหลวงกำลังเร่งสรุปผลการศึกษาและสำรวจออกแบบโครงการสำคัญ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันงบประมาณปี 2560-2561

หนึ่งในนั้นก็คือ โครงการทางหลวงแนวใหม่ สามแยกวังมะนาว บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 ไปทาง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

ระยะทาง 36.718 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาท

เหตุผลที่ต้องก่อสร้างทางหลวงเส้นนี้ เพื่อเป็นทางหลวงสำรองให้กับผู้ใช้ถนนเพชรเกษม ช่วงสามแยกวังมะนาว ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีการจราจรเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

ให้สามารถมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ ลดความแออัดของถนนเพชรเกษม โดยไม่ต้องเข้าเมืองเพชรบุรี

โดยเป็นการตัดถนนแนวใหม่ จากทางแยกต่างระดับวังมะนาว ระยะทาง 14.750 กิโลเมตร ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 3206 ที่บ้านดอนพุทรา ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

จากนั้น จะใช้แนวทางหลวงหมายเลข 3206 ไปจนถึงสามแยกบายพาส แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3501 อีก 14.8 กิโลเมตร สิ้นสุดที่สี่แยกจะโปร่ง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

รูปแบบถนนช่วงตั้งแต่สามแยกวังมะนาว ถึงสามแยกบายพาส ระยะทาง 21.852 กิโลเมตร จะเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรไป-กลับ มีเกาะกลางถนน

นอกจากนี้ จะปรับปรุงทางแยกต่างระดับวังมะนาวให้เป็นสี่แยก โดยสร้างสะพานเพิ่มในทิศทาง อ.หนองหญ้าปล้องมุ่งหน้ากรุงเทพฯ และทิศทางถนนพระราม 2 ตรงไปทาง อ.หนองหญ้าปล้อง

ส่วนช่วงตั้งแต่สามแยกบายพาส ถึงปากทางแยกเข้า อ.หนองหญ้าปล้อง จะยังคงเป็น 2 ช่องจราจร แต่หลังปี 2570 จะพิจารณาขยายจราจรเป็น 4 ช่องจราจรต่อไป

จากจุดดังกล่าว หากตรงไปอีก 28 กิโลเมตร จะถึงวงเวียนแก่งกระจาน ตรงไปอีก 22 กิโลเมตรจะถึงบ้านยางชุม จากจุดนี้ตรงไปอีก 26 กิโลเมตร จะถึงบ้านหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากสี่แยกหนองพลับ หากเลี้ยวซ้ายไปอีก 15 กิโลเมตร ก็จะถึงสี่แยกห้วยมงคล ถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี มุ่งหน้าสู่ภาคใต้โดยไม่ต้องผ่านเขตชุมชนอย่างเพชรบุรี ชะอำ และหัวหิน

ระยะทางเส้นทางสู่ภาคใต้แนวใหม่ จากสามแยกวังมะนาวถึงสี่แยกห้วยมงคล ประมาณ 127 กิโลเมตร แม้จะอ้อมกว่าถนนเพชรเกษมประมาณ 30 กิโลเมตร แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ที่ปริมาณรถบนถนนเพชรเกษมหนาแน่นและติดขัดอย่างหนัก

ที่ผ่านมากรมทางหลวงพัฒนาทางหลวงหมายเลข 3510 อย่างต่อเนื่อง เช่น ช่วงอ่างเก็บน้ำห้วยผากตามแนวพระราชดำริ ได้มีการตัดถนนขึ้นมาใหม่ ระยะทาง 6.310 กิโลเมตร

ทดแทนทางหลวงหมายเลข 3301 ช่วงอ่างเก็บน้ำห้วยผากตามแนวพระราชดำริที่ถูกน้ำท่วมและทำให้การสัญจรในช่วงดังกล่าวถูกตัดขาด

“สาครออนไลน์” ลงพื้นที่ทางหลวงแนวใหม่ โดยใช้เส้นทางถนนพระราม 2 ผ่านสามแยกวังมะนาว เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3206 ที่สี่แยกปากท่อ จ.ราชบุรี

พบว่าถนนในช่วงดังกล่าวยังคงเป็น 2 ช่องจราจร บางช่วงเป็นทางขึ้น-ลงภูเขา โดยสามารถตรงไปยัง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมได้

เมื่อผ่านไป 22 กิโลเมตร จะถึงจุดเริ่มต้นทางหลวงหมายเลข 3510 ที่จะทำเป็นถนนบายพาสแนวใหม่ ผ่านเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพุยาง ป่าพุสามซ้อน และป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี

เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากร้านอาหารเนินผาลาดที่อยู่บริเวณตอนต้นของถนนแล้ว ก็ไม่พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่ รวมทั้งสัญญาณโทรศัพท์ และสถานีบริการน้ำมัน

นอกเสียจากปั้ม ปตท.หนองหญ้าปล้อง ซึ่งอยู่บนถนนบายพาสเส้นดังกล่าว แต่เลยจากทางแยกเข้า อ.หนองหญ้าปล้องประมาณ 6-7 กิโลเมตร

แม้จะมีการพัฒนาทางหลวงแนวใหม่ แต่ความนิยมในการใช้ทางเส้นทางนี้ขึ้นอยู่กับจะพัฒนาไปในทิศทางใด โดยเฉพาะการขนายถนนเป็นมาตรฐานทางพิเศษที่ทำความเร็วได้ดี

อาจจะต้องรอประมาณ 5-10 ปีข้างหน้าหลังทางหลวงแนวใหม่เปิดใช้ จะมีการพัฒนาถนนเป็น 4 ช่องจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

เป็นที่น่าสังเกตว่า พร้อมกันนี้กรมทางหลวงยังจะนำเสนอโครงการเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงข่ายทางหลวงเชื่อมสู่ภาคใต้อีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ

ได้เแก่ ทางยกระดับพระราม 2 ตอน 2 ส่วนที่ 1 ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้งบประมาณเบื้องต้น 2 หมื่นล้านบาท และส่วนที่ 2 ระยะทาง 21 กิโลเมตร ใช้งบประมาณเบื้องต้น 2.6 หมื่นล้านบาท

รวมทั้งโครงการทางแยกต่างระดับใน จ.ราชบุรีอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทางแยกต่างระดับเขางู อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี ใช้งบประมาณเบื้องต้น 700 ล้านบาท

และ โครงการทางแยกต่างระดับปากท่อ ใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งทางหลวงหมายเลข 3206 จะไปบรรจบกับทางหลวงแนวใหม่ไปยัง อ.หนองหญ้าปล้อง

รวมทั้งจาก อ.ปากท่อ ปัจจุบันมีถนนสายปากท่อ-ท่าน้ำสมุทรสงคราม เชื่อมต่อสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองแห่งที่ 2 ไปยังทางเลี่ยงเมืองสมุทรสงคราม ช่วยแบ่งเบาภาระถนนพระราม 2 ได้อีกด้วย

ขั้นตอนต่อจากนี้ กรมทางหลวงจะเร่งสรุปผลการศึกษา ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมาครบ 3 ครั้ง ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน

ก่อนที่จะนำเสนอกระทรวงคมนาคม เร่งบรรจุในแผนงบประมาณปี 2560-2561 และจะเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ดำเนินโครงการตามความจำเป็นเร่งด่วนต่อไป

แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะการันตีได้ว่า ทางหลวงแนวใหม่สายนี้จะเป็นประตูสู่ภาคใต้แห่งใหม่ แต่ในเมื่อทางหลวงมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ ยังไม่เกิดขึ้น การพัฒนาทางหลวงสายรองจึงจำเป็น

และด้วยแนวถนนเชื่อมต่อกับถนนพระราม 2 โดยตรง เราอาจจะได้เห็นความเจริญในพื้นที่ถนนแนวใหม่ เป็นแหล่งเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในภาคตะวันตกเกิดขึ้นมาก็ได้

.

– กิตตินันท์ นาคทอง –