“แมนรัตน์” ยังไม่จบ! ศอตช. ใช้ดาบสองแล่เนื้อ

แมนรัตน์

หลังนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 33/2559 อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 โยกย้ายมาปฏิบัติราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรณีการค้ามนุษย์

แม้ผลการสอบข้อเท็จจริงที่นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. หลังตั้งคณะกรรมการสอบแล้วผลปรากฎว่าไม่มีความผิด แต่ดูเหมือนว่าคดีนี้ยังไม่จบ

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่ง คสช. ที่ 47/2559 ให้อำนาจประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเปรียบเทียบผลการสอบสวนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ในคำสั่งระบุให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วันแล้วให้รายงาน ศอตช.รับทราบ

“ข้อ 2 ในกรณีไม่ปรากฏว่าผู้ถูกตรวจสอบมีความบกพร่องใด ๆ หรือมีความผิดวินัยแต่มิใช่เป็นความผิดร้ายแรงจึงมีเหตุอันควรงดโทษหรือรับโทษสถานเบาขั้นภาคทัณฑ์ ให้เยียวยาโดยตําแหน่งระดับเดิมตามความเหมาะสม แต่ให้อยู่นอกพื้นที่เดิม โดยคํานึงถึงข้อมูลความเหมาะสมเกี่ยวกับตําแหน่งหน้าที่และพื้นที่ใหม่การให้ความเป็นธรรม และประโยชน์ของทางราชการประกอบกัน”

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า ที่ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรอบสอง เพราะประชาชนท้วงติงว่า หน่วยงานตรวจสอบกันเองจะมั่นใจได้อย่างไร ทั้งกรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ล้งกุ้ง และส่วยอาบอบนวดนาตารี คำสั่งนี้จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่น

เพราะหากผลสอบของกรรมการกลางที่ ศอตช. ตั้งขึ้นกับต้นสังกัดตรงกันก็ให้เป็นอันยุติ แต่ถ้าไม่ตรงกันให้เสนอข้อมูลพยานหลักฐานขึ้นไปยังหัวหน้า คสช. แต่หากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการประจำหน่วยงานที่ตรวจสอบแล้วไม่ตรงกับคณะกรรมการกลาง

และมีเหตุเชื่อได้ว่ามีส่วนหรือสนับสนุนซึ่งกัน คณะกรรมการชุดนั้นต้องรับผิดชอบ

น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา นายแมนรัตน์ ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ โดยมีนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่จากกองการเจ้าหน้าที่ เป็นกรรมการ

ผลสอบปรากฎว่า ไม่ผิด แต่คำสั่งตามมาตรา 44 ได้ระบุว่า หากไม่มีความผิดสามารถกลับไปดำรงตำแหน่งระดับเดิมได้ แต่ห้ามกลับไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเดิม ทำให้ในช่วงนี้ต้องให้ช่วยราชการไปก่อน

เมื่อดูจากคำสั่งล่าสุดออกมาแล้ว ในข้อ 2 ที่ระบุว่า “ให้เยียวยาโดยตําแหน่งระดับเดิมตามความเหมาะสม แต่ให้อยู่นอกพื้นที่เดิม” ก็ไม่ต่างไปจากของเดิม ตรงที่นายแมนรัตน์หากไม่ผิดจริง อาจจะดำรงตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

โดยสรุป คำสั่งนี้เสมือนเป็นการสแกนซ้ำ ไม่ให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย ส่วนอนาคตนายแมนรัตน์ เมื่อพ้นจากพื้นที่สมุทรสาครก็ไม่อาจทราบได้

สิ่งหนึ่งที่ต้องรอลุ้นคือตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อการแต่งตั้งตามมติ ครม. ล่าสุดปรับเพียงแค่ในระนาบเดียวกัน ไม่มีตำแหน่งไหนอยู่สมุทรสาคร เราอาจจะได้เห็นหน้าตาผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนใหม่ ที่มาจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดก็เป็นได้

– กิตตินันท์ นาคทอง –



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง