เมื่อวันก่อน “คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรสาคร” หรือ กรอ.สค.” ได้จัดการประชุมครั้งที่ 4/2559 ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร

มีนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุม พร้อมคณะกรรมการ กรอ. ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดมความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน

หนึ่งเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือ “โครงการก่อสร้างถนนสาย ส.ค.5031 แยก ทช.สค.2004 – บ้านเจษฎาวิถี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร” ซึ่งหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาให้ติดตามเร่งรัดความคืบหน้าของโครงการ การบริหารจัดการด้านการจราจรและด้านความปลอดภัยขณะปรับปรุงเส้นทาง และการเร่งรัดดำเนินการวางแนวสายไฟและท่อประปา

โดยมีฝ่ายแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร ทั้งวิศวกรโครงการ วิศวกรที่ปรึกษา นายช่างแขวงการทาง และวิศวกรของบริษัทก่อสร้าง เข้ามาชี้แจงในที่ประชุมร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาสมุทรสาคร และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ.สมุทรสาคร

นายอเนก พ่วงสุด วิศวกรโครงการ สค.5031 ได้ชี้แจงว่า กรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว โดยมีบริษัท สแปน จำกัด เป็นผู้ควบคุมงาน และบริษัท ศิริไพบูลย์ พัฒนาการ จำกัด เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง เป็นระยะทาง 10.116 กม. ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 840 วัน ตั้งแต่ 20 เม.ย. 2558 – 6 ส.ค. 2560 งบประมาณ 373 ล้านบาท

แนวเส้นทาง เริ่มต้นบริเวณ ถ.พระราม 2 กม.16+700 (หน้าวัดพันท้ายนรสิงห์) ไปตามแนวถนนเดิมสาย สค.5031 สิ้นสุดที่บ้านเจษฎาวิถี โดยก่อสร้างถนนผิวทางชนิดแอสฟัลต์คอนกรีตหนา 8 ซม. ขนาด 2-6 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.00-3.50 ม. พร้อมทางเท้าในเขตชุมชนกว้าง 1.75-2.50 ม. และไหล่ทางนอกเขตชุมชน

รวมไปถึงระบบระบายน้ำ ระบบอำนวยความปลอดภัยการจราจร ระบบไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางแยก อีกทั้งก่อสร้างขยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามคลองจำนวน 12 แห่ง และก่อสร้างสะพานใหม่แทนของเดิม 4 แห่ง

สำหรับเรื่องร้องเรียนที่ได้รับจากประชาชน ว่าการขยายและปรับปรุงผิวถนนมีความล่าช้า โดยบริเวณการก่อสร้างเป็นแหล่งชุมชน นิคมอุตสาหกรรม และโรงเรียน ทำให้มีการสัญจรไปมา เป็นจำนวนมาก ซ้ำยังเกิดปัญหาจราจรติดขัด ขาดการบริหารจัดการ และความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง

ซึ่งทางโครงการฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยกำหนดมาตรการติดตั้งป้ายเตือนต่างๆ จัดเจ้าหน้าที่โบกธงเขียว-แดง ขณะดำเนินการก่อสร้าง จัดรถบรรทุกน้ำทำการรดน้ำดับฝุ่นภายในพื้นที่การก่อสร้าง และทำการปรับเกลี่ยผิวจราจรที่ชำรุดเสียหายขณะดำเนินการก่อสร้าง

ในส่วนของความก้าวหน้าของโครงการนั้น ทางวิศวกรโครงการฯ ชี้แจงว่า ผลการก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนงานประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากติดขัดเรื่องการรื้อย้ายท่อประปาและเสาไฟฟ้าไม่สามารถทำได้ เพราะแนวเขตทางหลวงไม่ชัดเจน

ทางโครงการฯ จึงได้ทำเรื่องขอความร่วมมือกับสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรังวัดสอบเขตที่ดิน ตั้งแต่เดือน เม.ย. – พ.ค. ที่ผ่านมาจนแล้วเสร็จ จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ทางด้านผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สมุทรสาคร กล่าวในที่ประชุมว่า ในการย้ายเสาไฟฟ้า ได้มีการพูดคุยกับทางสำนักงานโครงการฯ หากจุดไหนไม่มีปัญหาเรื่องเขตทางก็ดำเนินการให้ก่อน ส่วนที่มีปัญหาถ้าไม่มีเขตรังวัดที่ชัดเจน หากไปดำเนินการอาจถูกร้องเรียนได้

อีกทั้งในการย้ายแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งหลังจากทราบเขตทางที่ชัดเจนเมื่อเดือน พ.ค. ก็ได้เริ่มทำการสำรวจและประมาณการค่าใช้จ่าย ตอนนี้แบบการรื้อย้ายเสาไฟฟ้าและงบประมาณก็มีเข้ามาแล้ว

โดย กฟภ. ขอแจ้งให้ทราบในเบื้องต้นว่า จะมีการวางแผนงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเดือนละ 2 ครั้งในวันอาทิตย์ เพื่อการก่อสร้างรื้อย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยจะประสานกับทางโครงการฯ เพื่อให้กระทบกระเทือนต่อชุมชนที่พักอาศัยน้อยที่สุด ส่วนวันธรรมดาก็จะเก็บงานที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องดับไฟฟ้า

ซึ่งเดือนหน้าจะเป็นการย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 22 kV (เสาเตี้ย) ช่วงวันที่ 11 และ 25 ก.ย. 2559 ตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปัจจัยอื่นด้วย ถ้างานแล้วเสร็จจะรีบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้โดยเร็วที่สุด

นายอุดม เข็มเจริญ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร กล่าวว่า ได้รับแจ้งเรื่องของเขตทางจากทางโครงการฯ แล้ว ได้งบประมาณจาก กปภ. เพื่อดำเนินการย้ายท่อประปาเป็นจำนวน 17 ล้านบาท

อีกทั้งได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว จะเซ็นสัญญาในเดือนหน้า แต่ก็ได้มีการลงมือทำงานกันแล้ว โดยมี 2 บริษัทเป็นผู้รับจ้าง ซึ่งทาง กปภ. ยินดีให้ความร่วมมือกับแขวงทางหลวงชนบท สร้างความเจริญให้กับบ้านเมือง

นายอุดม กล่าวอีกว่า พื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ และ ต.โคกขาม โตเร็วอย่างก้าวกระโดด มีการใช้น้ำประปามากจนไม่พอจ่าย ซึ่งก็ได้มีโครงการก่อสร้างวางท่อประปาขนาด 500 มม. เพื่อเสริมแรงดัน จากทางวัดเจษฎารามเข้ามาที่นิคมสินสาคร รองรับการใช้น้ำของนิคมอุตสาหกรรม และโครงการหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่

แต่เนื่องจากงบประมาณเข้ามาล่าช้ากว่าแขวงทางหลวงชนบทฯ ทำให้ต้องรอให้แขวงทางหลวงชนบทฯ ทำงานให้เสร็จก่อน จึงจะดำเนินการวางท่อประปาเสริมเข้ามาได้ ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถวางท่อประปาได้แล้วบางส่วน

นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าสมุทรสาคร กล่าวในที่ประชุมว่า ในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ได้เคยมีการเชิญแขวงทางหลวงชนบท เจ้าของโครงการก่อสร้างฯ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ มาร่วมพูดคุยกัน 1-2 รอบ

เนื่องจากปัญหาของถนนเส้นนี้อยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม หมู่บ้านจัดสรร และโรงเรียน ทำให้มีการจราจรเยอะมากในแต่ละวัน โดยปกติตอนที่ถนนยังดี รถก็ติดอยู่แล้ว พอมามีปัญหาเรื่องผิวทางอีกก็ทำให้รถติดมาก โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน

อีกส่วนหนึ่ง นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร เป็นนิคมที่มีแขกสำคัญเข้ามาตลอด อย่างเมื่อวันก่อนประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสื่อมวลชนได้เข้ามาในพื้นที่ ก็ต้องช่วยกันเยอะพอสมควร

และทางหมู่บ้านโคกขาม ได้รับเลือกเป็นตัวแทนจังหวัดให้เป็นหมู่บ้านดีเด่น ก็มีคณะกรรมการจากกรุงเทพฯ ลงมาตรวจ ก็พาขึ้นรถตุ๊กตุ๊กวิ่งผ่านดินแดงเข้าไป เหล่านี้คือปัญหาที่ได้เจอ

ในครั้งแรกที่ได้ร่วมพูดคุยกัน ตนทราบว่ามีปัญหาเรื่องของชาวบ้านหรือร้านค้าที่รุกล้ำเข้ามาในเขตถนน ตอนนั้นมีการพูดคุยกันว่า ใครจะเป็นผู้แจ้งชาวบ้านและรื้อถอน ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่าเป็นหน้าที่ของทางแขวงทางหลวงชนบทฯ ก็ได้ช่วยกันคิดว่าจะจัดการตามลำดับขั้นตอนอย่างไร

สิ่งที่ตนคิดว่าเราทุกคนอยากเห็น คือระยะเวลาที่แน่นอนและชัดเจนของถนนที่จะแล้วเสร็จ และในช่วงถนนที่มีปัญหารถติดหนัก ตั้งแต่หน้า ร.ร.อัสสัมชัญพระราม 2 ไปจนถึง ม.สารินซิตี้ จะบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ถนนแล้วเสร็จเป็นช่วงไป อำนวยความสะดวกให้คนในพื้นที่ และภาพลักษณ์ที่ดีเมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองเข้ามา

สำหรับมติที่ประชุม กรอ.สค. นั้น ให้ทาง 3 หน่วยงาน ได้แก่ แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสมุทรสาคร และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สมุทรสาคร ได้ทำแผนงานร่วมกัน และจะเร่งดำเนินการพิจารณาในเรื่องของจุดที่มีการจราจรติดขัดเป็นลำดับแรก

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง