ภาพจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ก่อนพักเที่ยงของวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร เดินทางไกลมาจากมหาชัย ถึงกองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครองตนเอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต

เฮียม้อเปิดเผยว่า หลังจาก “นายกฯ ตุ่น” อุดร ไกรวัตนุสสรณ์ ลูกชายคนโตซึ่งเป็นอดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว โดยมี “ครรชิต ทับสุวรรณ” ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งศาลจะมีการไต่สวนพยานในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ซึ่งพยานคนสำคัญในคดีดังกล่าวอย่งคนขับรถได้มีตำรวจคุ้มครองแล้ว

แต่ “เฮียม้อ” ยังไม่ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่

นายก อบจ.สมุทรสาครผู้นี้กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ได้รับการเตือนจากข้าราชการระดับสูงรายหนึ่ง บอกว่าให้ระวังตัว อีกทั้งในช่วงนี้เวลาเดินทางออกพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ก็รู้สึกว่า มีรถแปลกๆ ขับตามมา ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงได้มาขอกำลังตำรวจกองปราบปรามเพื่อให้ช่วยคุ้มครองดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าใครมาร้องขอความคุ้มครองจะรับพิจารณา และส่งกำลังไปคุ้มครองโดยทันที ส่วนจะส่งกำลังจากหน่วยใดในสังกัดก็จะพิจารณาต่อไป

ภาพจากแฟ้ม

สำหรับความคืบหน้าคดียิง “นายกฯ ตุ่น” ที่ใกล้จะครบรอบ 1 ปีในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ คนที่ติดตามความคืบหน้าก็จะทราบกันดีว่าในช่วงที่ผ่านมา การทำคดีเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากติดในเรื่องเอกสิทธิ์ ส.ส.ของ “ครรชิต” คุ้มครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131

ครรชิตได้มอบตัวกับทางตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. กระทั่งในอีก 2 วันถัดมา อัยการจังหวัดสมุทรสาครได้ส่งตัวพร้อมสำนวนคดีไปยังศาลจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งศาลอนุญาตให้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวชั่วคราว และนัดหมายขึ้นศาลตามวันเวลาที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญทั่วไป เมื่อวันที่ 1 ส.ค. และสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ ในช่วงวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ถึง 18 เม.ย. 2556 แน่นอนว่าช่วงดังกล่าวมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองแน่นอน

ถึงกระนั้นในช่วงเวลานี้ ตำรวจก็หมดอำนาจในการควบคุมตัวแล้ว เนื่องจากคดีนี้อัยการได้สั่งฟ้องไปแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลจังหวัดสมุทรสาคร โดยศาลจังหวัดสมุทรสาครให้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวชั่วคราวก่อนหน้านี้นั่นเอง

พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.สมุทรสาคร กล่าวไว้ว่า หลังอัยการสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว ศาลได้มีคำสั่งสืบพยานทั้งหมด 9 ปาก ในส่วนของนายครรชิต แม้ว่าจะหมดสมัยประชุมสภาฯ แต่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากกระบวนการทางกฏหมายไปอยู่ที่การพิจารณาของศาล ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจที่จะไปดำเนินการ

เรียกง่ายๆ ต้องอยู่ที่การพิจารณาคดีของศาลเท่านั้น…