เปรียบเทียบความคุ้มค่า ซื้อ iPhone 5S/5C ค่ายมือถือหรือออนไลน์ดี?

997

25 ตุลาคมนี้ จะเป็นวันแรกที่ค่ายมือถือในไทยจะจำหน่ายสมาร์ทโฟนชื่อดัง “ไอโฟน” รุ่นล่าสุด ซึ่งมีให้เลือกระหว่าง iPhone 5S ชูจุดขายระบบ Touch ID เซ็นเซอร์ตรวจสอบลายนิ้วมือที่ปุ่ม และ iPhone 5C ที่เน้นจุดขายตัวเครื่องสีสันสดใสให้เลือกถึง 5 สี

โดยทรูมูฟ เอช เป็นค่ายแรกที่จัดงานเปิดตัวและจำหน่ายไอโฟนทั้งสองรุ่น ในคืนวันที่ 24 ตุลาคม ที่สกายฮอลล์ ชั้น 3 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และจะมีการจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าที่ลงทะเบียนตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสามของวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนจะมีการส่งมอบเครื่องเป็นรอบๆ

ขณะที่เอไอเอสก่อนหน้านี้ได้เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ก่อนที่จะให้รับเครื่องในวันที่ 25-27 ตุลาคม ส่วนลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้ลงทะเบียน สามารถซื้อเครื่องได้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไป ที่เอไอเอส ช็อป, เซเรเนด คลับ ทุกสาขา และร้านเทเลวิช ที่ร่วมรายการ

ส่วนดีแทคในครั้งนี้จัดงานเปิดตัว 4 ภาค ได้แก่ ที่สำนักงานใหญ่ อาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น G กรุงเทพฯ, เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น พร้อมจำหน่ายที่ศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ Apple Online Store TH ได้มีการเปิดให้ผู้สนใจสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว โดย iPhone 5S ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท และ iPhone 5C ราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท แต่ยังขึ้นสถานะไม่มีกำหนดจัดส่งหรือจำหน่ายที่แน่นอน

997-2

• ดีแทคถูกสุดหลายรุ่น รุ่นท็อป “เอไอเอส-ทรู” ถูกกว่า

จากการสำรวจราคาจำหน่ายไอโฟนระหว่างผู้ให้บริการมือถือด้วยกันจะเห็นว่า iPhone 5S หากเป็นราคาจำหน่ายพร้อมแพ็คเกจ ดีแทคจะขายถูกกว่า โดยขนาดความจุ 16 GB ราคา 23,650 บาท ถูกกว่า 250 บาท 32 GB ราคา 27,350 บาท ถูกกว่า 150 บาท

ส่วนความจุ 32 GB กลับพบว่าเอไอเอส และทรูมูฟเอช กลับมีราคาถูกกว่าดีแทค 50 บาท โดยราคาขายอยู่ที่ 30,900 บาท ในส่วนของเครื่องเปล่า ทรูมูฟ เอช จะขายถูกกว่าในขนาดความจุ 16 GB และ 64 GB ส่วนความจุ 32 GB แพงกว่ากัน 50 บาท

สำหรับ iPhone 5C หากเป็นราคาจำหน่ายพร้อมแพ็คเกจ ความจุ 16 GB ทุกค่ายตั้งราคาขาย 19,900 บาท แต่ความจุ 32 GB ดีแทคขายในราคา 23,650 บาท ถูกกว่าเอไอเอสและทรูมูฟ เอช 250 บาท

ส่วนเครื่องเปล่าความจุ 16 GB ทรูมูฟ เอช และเอไอเอสขายในราคา 20,700 บาท ส่วนดีแทคขายแพงกว่ากัน 30 บาท แต่ความจุ 32 GB ทรูมูฟ เอช ขายในราคา 24,500 บาท ถูกกว่าเอไอเอสและดีแทค 50 บาท

997-3

• เปรียบเทียบราคา Apple Online Store ถูกจริงเฉพาะเครื่องเปล่า

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อไอโฟน คือการสั่งซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่เว็บไซต์ Apple Online Store ซึ่งจะได้รับเครื่องเปล่าแบบไม่มีการล็อคเครื่อง แตกต่างจากเครื่องหิ้ว และมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับซื้อเครื่องเปล่าที่ค่ายมือถือนำเข้ามาจำหน่าย

การสั่งซื้อไอโฟนผ่านทาง Apple Online Store นั้น วิธีการชำระเงินคือการใช้เลขบัตรเครดิต หรือหากมีบัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ สามารถใช้บริการ Verified by VISA เพื่อใช้เลขบนบัตรซื้อสินค้าโดยหักเงินจากบัญชีที่ผูกกับบัตรได้

เมื่อเปรียบเทียบราคาระหว่าง Apple Online Store กับเครื่องที่จำหน่ายพร้อมแพ็คเกจจากค่ายมือถือ iPhone 5S ความจุ 16 GB ดีแทคจะถูกกว่า 250 บาท, 32 GB เอไอเอสและทรูมูฟเอชจะถูกกว่า 400 บาท และ 64 GB ถูกกว่าถึง 1,000 บาท

ส่วน iPhone 5C นั้น ความจุ 16 GB ราคาจาก Apple Online Store และค่ายมือถือนั้นเท่ากัน คือ 19,900 บาท ซึ่งหากเป็นเครื่องเปล่าจะแพงกว่า 800 บาท ดีแทคแพงกว่า 830 บาท แต่ความจุ 32 GB พบว่าดีแทคถูกกว่า 250 บาท

• ติดสัญญาอย่างน้อย 3 เดือน “เอไอเอส” ยืดหยุ่นลูกค้าเติมเงินใช้ได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับราคาขายเครื่องพร้อมแพ็คเกจ แต่ละค่ายมือถือมักมีเงื่อนไขในลักษณะคล้ายกัน คือ ต้องใช้บริการในแพ็คเกจที่เครือข่ายกำหนดไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงจะสามารถเปลี่ยนแพ็คเกจ หรือหากย้ายค่ายไปผู้ให้บริการรายอื่นได้หากใช้งานแล้ว 90 วัน

โดยเอไอเอสนั้น ลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่ในราคาเครื่องพร้อมแพ็คเกจ จะต้องใช้แพ็คเกจที่กำหนดนานติดต่อกันมากกว่า 3 รอบบิล นับตั้งแต่วันที่สมัครใช้ จึงจะสามารถเปลี่ยนแพ็คเกจได้ แต่มีความยืดหยุ่นคือสามารถสมัครได้ทั้งแบบจดทะเบียนรายเดือน และแบบเติมเงินได้

ขณะที่ดีแทคกำหนดเงื่อนไขว่า ต้องซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจแบบจดทะเบียนโดยใช้แพ็กเกจหลัก หรือแพ็กเกจเสริมที่มี dtac internet ที่มีมูลค่าแพ็กเกจในราคาตั้งแต่ 424 บาทต่อเดือน และต้องใช้บริการกับบริษัทฯ อย่างน้อย 3 รอบบิล

ส่วนทรูมูฟเอชนั้น ในขณะนี้ยังไม่ได้ระบุเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่ในราคาเครื่องพร้อมแพ็คเกจว่าต้องใช้บริการนานเท่าใดแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะในช่วงแรกจำหน่ายเฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนให้ความสนใจก่อน จึงจะจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าทั่วไป

997-4

• แพ็คเกจเอไอเอสถูกสุดเพียง 170 บาท-ดีแทคบีบใช้แพ็คเกจ 5-6 ร้อย

สำหรับแพ็คเกจสำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องของแต่ละค่ายนั้น พบว่ามีจุดขายแตกต่างกันไป เช่น เอไอเอสที่ใช้ได้ทั้งลูกค้าจดทะเบียนใหม่ และลูกค้าแบบเติมเงิน แพ็คเกจต่ำสุดเริ่มต้นที่ 170 บาท โทรฟรี 100 นาที อินเตอร์เน็ต 500 MB ฟรีค่าบริการเดือนที่ 19-24 ไว-ไฟไม่จำกัด

ส่วนแพ็คเกจใช้งานได้ไม่จำกัดราคาเริ่มต้นที่ 370 บาท ความเร็วสูงสุดรวม 1.5 GB โทรฟรี 200 นาที, 470 บาท ความเร็วสูงสุดรวม 2 GB โทรฟรี 300 นาที และ 670 บาท ความเร็วสูงสุดรวม 3 GB โทรฟรี 500 นาที ฟรีค่าบริการเดือนที่ 21-24 ไว-ไฟไม่จำกัด

ส่วนดีแทค ลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจจะบังคับให้สมัครเพียง 2 ประเภท ใช้บริการอย่างน้อย 3 รอบบิล ได้แก่ Double Buffet ค่าบริการรายเดือน 600 บาท โทรฟรีเบอร์ดีแทค ครั้งละ 60 นาที อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุดรวม 3 GB แถม 500 MB นาน 10 เดือน

และ iDeal 539 ค่าบริการรายเดือน 539 บาท โทรฟรี 550 นาที อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุดรวม 2 GB แถมบริการ dtac DEEZER ไม่จำกัด อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าประสงค์จะใช้แพ็คเกจเดิมที่มีอยู่ จำเป็นต้องซื้อเครื่องเปล่าซึ่งมีราคาแพงกว่าแทน

ขณะที่ทรูมูฟ เอช เมื่อซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็คเกจ จะได้รับการยกเว้นแพ็คเกจเสริม 4G มูลค่า 99 บาท โดยแพ็คเกจต่ำลสุดเริ่มต้นที่ 339 บาท (จากปกติ 399 บาท) อินเตอร์เน็ต 400 MB ส่วนเกินเมกะไบต์ละ 2 บาท โทรฟรี 100 นาที ไว-ไฟ 10 ชั่วโมง

ส่วนแพ็คเกจใช้งานได้ไม่จำกัดราคาเริ่มต้นที่ 389 บาท ความเร็วสูงสุดรวม 3 GB โทรฟรี 250 นาที ไว-ไฟ 20 ชั่วโมง และ 539 บาท ความเร็วสูงสุดรวม 3 GB โทรฟรี 450 นาที และไว-ไฟไม่จำกัด ฟรีค่าบริการรายเดือน 6 รอบบิล หลังใช้งานครบ 18 รอบบิล

997-5

• เปรียบเทียบความคุ้มค่า ระหว่างซื้อเครื่องที่ค่ายมือถือ กับซื้อผ่านออนไลน์

แม้การสั่งซื้อไอโฟนรุ่นล่าสุดผ่านทาง Apple Online Store TH จะถูกกว่าซื้อผ่านค่ายมือถือ และได้เครื่องที่ไม่ล็อกซิมการ์ดเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างการซื้อทั้งสองรูปแบบ คือ หากซื้อผ่านค่ายมือถือ ถ้ามีสินค้าในสต็อกจะได้รับเครื่องในวันนั้นเลย

ขณะที่การสั่งซื้อผ่าน Apple Online Store TH ขณะนี้ยังขึ้นสถานะการจัดส่ง “Currently unavailable” ซึ่งย่อมหมายถึง ยังไม่มีกำหนดจัดส่งแน่นอน ซึ่งการเปิดตัวไอโฟนรุ่นที่ผ่านมากว่าจะได้รับเครื่องต้องรอเวลานานถึง 3-4 สัปดาห์เลยทีเดียว

โดยการจัดส่งสินค้าของแอปเปิ้ลปกติจะใช้บริการ DHL บริษัทจัดส่งสินค้าและพัสุดภัณฑ์ชั้นน้ำของโลกเป็นผู้จัดส่ง ซึ่งมีความปลอดภัยระดับหนึ่ง หากสั่งสินค้าผ่าน Apple Online Store TH มากกว่า 2,000 บาทขึ้นไปจะฟรีค่าจัดส่งมูลค่า 300 บาท

ส่วนการซื้อเครื่องผ่านค่ายมือถือ หากซื้อที่ศูนย์บริการลูกค้า นอกจากจะได้รับเครื่องแล้วยังสามารถทำเรื่องขอเปลี่ยนซิมการ์ดเป็น Nano SIM ได้ในที่เดียวกัน ขณะที่การสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ถ้าไม่มีนาโนซิมอยู่แล้วต้องไปเปลี่ยนซิมการ์ดที่ศูนย์บริการลูกค้าค่ายมือถืออีกครั้ง

หากใช้บัตรเครดิตในการสั่งซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจ สามารถผ่อน 0% 10 เดือนกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ แต่หากซื้อผ่าน Apple Online Store TH ไม่สามารถใช้สิทธิ์ผ่อน 0% ได้ แต่บัตรเครดิตบางยี่ห้อสามารถแจ้งเปลี่ยนยอดชำระปกติเป็นผ่อนชำระรายเดือนได้

ส่วนการรับประกันนั้น ไอโฟนทั้งสองรุ่นมีการรับประกัน 1 ปี หากซื้อผ่านค่ายมือถือเมื่อเกิดปัญหาต้องส่งซ่อมที่ค่ายมือถือที่ซื้อเท่านั้น โดยค่ายมือถือจะนำไปที่ Apple Authorised Service Provider อีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้เวลา

ขณะที่หากซื้อผ่านทาง Apple Online Store TH ต้องไปเคลมที่ Apple Authorised Service Provider ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ยกเว้นหากซื้อแล้วพบปัญหาใน 14 วัน สามารถโทรศัพท์แจ้ง Apple Care (โทรฟรี) มารับเครื่องไปเคลมแล้วส่งกลับมาได้

ในเว็บไซต์พันทิป ได้มีกระทู้ในหัวข้อ “iPhone 5S, 5C ซื้อจากแหล่งไหนดี? ต่างกันยังไง? มาดูกันครับ” ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบ รายละเอียดคลิกที่ http://pantip.com/topic/31080299

การซื้อไอโฟนทั้งผ่านค่ายมือถือและผ่านออนไลน์มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป หากไม่ต้องการความยุ่งยากควรใช้บริการกับค่ายมือถือ แต่หากต้องการความประหยัดก็สั่งจองผ่านทาง Apple Online Store TH ได้โดยตรง

ขอแค่คุณมีเงิน หรือวงเงินบัตรเครดิตพร้อมเท่านั้น.



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง