เตือนภัยคนใช้รถตู้… โชเฟอร์ขืนใจหญิงพม่า
ภาพประกอบจาก นสพ.ข่าวสด
จังหวัดสมุทรสาครมีรถตู้ให้บริการจากตลาดมหาชัยไปยังจุดหมายปลายทางในกรุงเทพฯ อยู่มากมาย นอกจากเรื่องความเร็วที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งยังน่าเป็นห่วงแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคดีสะเทือนขวัญ เฉกเช่นโชเฟอร์รถตู้บางรายลงมือข่มขืนกระทำชำเราสาวพม่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีนำหญิงสาวชาวพม่ารายหนึ่ง วัย 23 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ว่าถูกคนขับรถตู้ทำร้ายร่างกายและลงมือขืมขืน เหตุเกิดบนถนนสายบางบ่อ-ดอนหอยหลอด ต.บางแก้ว อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม
สาวพม่ารายนี้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเป็นแม่บ้านอยู่ย่านบางนา ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาหาเพื่อนเพื่อเล่นสงกรานต์ที่ จ.สมุทรสาคร หลังเล่นสงกรานต์เสร็จ จะกลับที่พักย่านบางนา ระหว่างนั้นได้ผ่านรถตู้โดยสารคันหนึ่ง คนขับรถตู้ถามว่าไปไหน ตอบว่าไปพระราม 2 คนขับรถตู้จึงบอกให้ขึ้นรถ
ในรถตู้คันดังกล่าวมีผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิง 2 คนอยู่ในรถ ระหว่างทางเธอโทรศัพท์คุยกับเพื่อนเป็นเวลานาน กระทั่งผู้โดยสารลงจากรถทั้งหมด เหลือตนกับคนขับรถตู้ ไม่ทราบว่าขับรถพาไปทางไหน จากนั้นรถแล่นเข้าไปยังถนนเปลี่ยว สองข้างทางเป็นป่าไม้ไม่มีผู้คน
คนขับรถตู้จึงลงจากรถ ก่อนเปิดประตูตรงเข้าปลุกปล้ำหมายจะข่มขืน แต่เมื่อขัดขืนจึงถูกต่อยท้องหลายครั้งจนเธอจุก จากนั้นคนขับรถตู้ลงมือข่มขืนบนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นมีเสียงโทรศัพท์ที่หน้าคนขับดังขึ้น คนขับรถตู้ได้ลงไปคุยโทรศัพท์ เธอจึงวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือพลเมืองดี
เบื้องต้นตำรวจพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สมุทรสงคราม เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืน และตรวจสอบเวลารถออกจากสถานี บขส. สายใต้ใหม่ จึงทราบเลขข้างรถและทะเบียนของคนร้าย
พบว่าเป็นรถตู้โตโยต้า รุ่นคอมมูเตอร์ สีขาวคาดฟ้า สายกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่)-สมุทรสงคราม ทะเบียน 14-3716 กทม. เลขข้างรถ 976-12 คนขับรถตู้คันดังกล่าวคือ นายณรงศักดิ์ หรือเปีย ใยเทิง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
ในที่สุด ระยะเวลาผ่านไป 4-5 วัน ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม จึงนำกำลังไปจับกุมนายเปียได้ที่ท่ารถตู้โดยสารสถานี บขส.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ในตลาดแม่กลอง ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
นายเปียรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสารมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เหยื่อเป็นหญิงคนไทย อายุ 45 ปี แต่เจ้าทุกข์ไม่ได้แจ้งความ กระทั่งเห็นสาวพม่าหน้าตาดี จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ และไม่คิดว่าจะกล้าแจ้งความ เลยก่อเหตุซ้ำ
เหตุการณ์รถตู้มหาภัยในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง จึงควรระมัดระวังเมื่อมีสิ่งที่ผิดสังเกต รวมทั้งควรรู้จักวิธีการป้องกันตัว แต่สิ่งสำคัญหากตกเป็นผู้เสียหาย การแจ้งความแทนที่จะเก็บเงียบเพราะความอาย จะช่วยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการไม่ให้คนร้ายลอยนวล ก่อเหตุอย่างไม่รู้จบสิ้น.